ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องมากที่สุดในการเทรด สำหรับเทรดเดอร์ นี่เป็นโอกาสในการใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน คู่เงินหลักและคู่เงินรองมักจะเป็นดาวเด่น แต่ยังมีคู่เงินประเภทที่สามที่ให้โอกาสในการเทรดได้ คู่เหล่านี้เรียกว่าคู่เงินพิเศษ
ข้อเท็จจริงแบบรวบรัด
- ฟอเร็กซ์มีการซื้อขายกันเป็นคู่ โดยสกุลเงินแรกเป็น “สกุลเงินหลัก” และสกุลเงินที่สองเป็น “สกุลเงินรอง”
- มีการจำแนกเป็นคู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินพิเศษ
- คู่เงินพิเศษเป็นคู่ที่มีการเทรดกันน้อยกว่า โดยจะมีสกุลเงินหลักเทียบกับสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่
- คู่เงินเหล่านี้อาจมีความผันผวนสูง ซึ่งแสดงถึงโอกาสที่เป็นไปได้สำหรับเทรดเดอร์
สารบัญ:
คู่เงินหลัก คู่เงินรอง และคู่เงินพิเศษ – แตกต่างกันอย่างไร?
ในฟอเร็กซ์ สกุลเงินจะมีการเทรดเป็นคู่เสมอ การเทรดฟอเร็กซ์แต่ละครั้งเกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินหนึ่งขณะที่ขายอีกสกุลเงินหนึ่งไปพร้อมกัน สกุลเงินเหล่านี้แสดงราคาเป็นคู่ โดยสกุลเงินแรกคือ “สกุลเงินหลัก” และสกุลเงินที่สองคือ “สกุลเงินรอง”
ตัวอย่างเช่น ในคู่ EUR/USD นั้น EUR เป็นสกุลเงินหลัก ขณะที่ USD เป็นสกุลเงินรอง
มูลค่าของคู่เงินแสดงถึงจำนวนเงินของสกุลเงินรองที่จำเป็นในการที่จะซื้อหนึ่งหน่วยของสกุลเงินหลัก
คู่เงินหลัก
สกุลเงินที่มีการเทรดกันอย่างคับคั่งและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในโลกประกอบด้วยคู่เงินหลัก
- โดยจะมีดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นหนึ่งในสกุลเงินที่จับคู่กันเสมอ
- คู่เงินหลักคิดเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุดของปริมาณการเทรดฟอเร็กซ์ ซึ่งเป็นการดำเนินการในตลาดส่วนใหญ่
- คู่เงินเหล่านี้มักจะมีสภาพคล่องสูง สเปรดที่ต่ำกว่า และได้รับความนิยมทั้งในหมู่เทรดเดอร์รายย่อยและนักลงทุนระดับสถาบัน
- ตัวอย่าง:
EUR/USD ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ USD/JPY ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น GBP/USD ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ USD/CHF ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส USD/CAD ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา AUD/USD ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ
คู่เงินรอง
คู่เงินรองหรือคู่ข้าม หมายถึงคู่เงินจากประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ ที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา
- คู่เงินเหล่านี้ไม่ได้นำดอลลาร์สหรัฐ (USD) มาเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่จับคู่ด้วย
- แม้จะมีปริมาณการเทรดต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่เงินหลัก แต่ก็ยังมีสภาพคล่องพอสมควรและมีการเทรดกันอย่างต่อเนื่อง
- ตัวอย่าง:
EUR/GBP ยูโร/ปอนด์อังกฤษ EUR/JPY ยูโร/เยนญี่ปุ่น GBP/JPY ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น AUD/JPY ดอลลาร์ออสเตรเลีย/เยนญี่ปุ่น EUR/AUD ยูโร/ดอลลาร์ออสเตรเลีย CAD/JPY ดอลลาร์แคนาดา/เยนญี่ปุ่น
คู่เงินพิเศษ
คู่เงินพิเศษประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งสกุลคู่กับสกุลเงินของเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือเศรษฐกิจขนาดเล็กกว่า
- คู่เหล่านี้มีการเทรดกันน้อยกว่าและมีสภาพคล่องต่ำกว่าเมื่อเทียบกับคู่เงินหลักและคู่เงินรอง
- คู่เงินพิเศษมีความเกี่ยวข้องกับประเทศจากภูมิภาคต่างๆ เช่น เอเชีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง หรืออเมริกาใต้
- มีลักษณะพิเศษคือมีค่าสเปรดราคาเสนอซื้อ-เสนอขายที่สูงกว่าและมีความผันผวนมากกว่า
- ตัวอย่าง:
USD/TRY ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี EUR/TRY ยูโร/ลีราตุรกี USD/ZAR ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์แอฟริกาใต้ USD/THB ดอลลาร์สหรัฐ/บาทไทย USD/MXN ดอลลาร์สหรัฐ/เปโซเม็กซิโก EUR/HUF ยูโร/โฟรินต์ฮังการี
คู่เงินพิเศษคืออะไร?
คู่เงินพิเศษมีสภาพคล่องน้อยกว่าและมีการเทรดกันน้อยกว่า โดยประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งสกุลคู่กับสกุลเงินของเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือเศรษฐกิจที่ไม่ได้เป็นที่รู้จักกว้างขวาง
สกุลเงินพิเศษไม่ได้มีสภาพคล่องสูงเหมือนกับการเทรดคู่ฟอเร็กซ์หลัก แต่มีแนวโน้มที่จะพบกับความผันผวนของราคาที่สูงกว่า เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ได้ใช้ประโยชน์
ตัวอย่างของคู่เงินพิเศษ
ต่างจากคู่เงินหลักซึ่งมีสกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักๆ เช่น USD, EUR, JPY และ GBP คู่เงินพิเศษจะมีสกุลเงินจากภูมิภาคที่กระจัดกระจาย
ตัวอย่างบางส่วน ได้แก่ USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี), EUR/TRY (ยูโร/ลีราตุรกี) และ USD/ZAR (ดอลลาร์สหรัฐ/แรนด์แอฟริกาใต้)
สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนเริ่มเทรด
แม้ว่าคู่เงินพิเศษจะให้โอกาสในการสร้างผลกำไร แต่อย่าเข้าไปแบบตามืดบอด ทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของการเทรดคู่เงินพิเศษก่อนเพื่อให้ตัดสินใจเทรดได้อย่างมีข้อมูล
ข้อดีของการเทรดคู่เงินพิเศษ
- โอกาสที่ไม่ซ้ำใคร:คู่เงินพิเศษสามารถให้โอกาสในการเทรดที่ไม่เหมือนใครซึ่งอาจหาไม่ได้ในคู่เงินหลัก เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ การพัฒนาเศรษฐกิจ หรือข่าวที่ไม่คาดคิดในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญ
- มีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง:ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในคู่เงินพิเศษสามารถนำไปสู่การสวิงของราคาอย่างมาก ซึ่งทำให้เกิดผลตอบแทนสูงจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จ
- กระจายความเสี่ยงในพอร์ต:การเพิ่มคู่เงินพิเศษในพอร์ตที่มีความหลากหลายสามารถใช้เป็นกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงได้ นอกจากนี้ คู่เหล่านี้ยังสามารถให้โอกาสเพิ่มเติมเมื่อคู่หลักมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ซบเซา
ข้อเสียของการเทรดคู่เงินพิเศษ
- ต้นทุนสูงขึ้น: สภาพคล่องที่น้อยกว่าในคู่เงินพิเศษส่งผลให้เกิดสเปรดที่กว้างขึ้นและมีต้นทุนการทำธุรกรรมที่สูงขึ้น ซึ่งอาจตัดทอนผลกำไรที่เกิดขึ้นได้
- ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น: ความผันผวนที่สูงขึ้นของคู่เงินพิเศษช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงหรือเพิ่มผลขาดทุนด้วยเช่นกัน
- ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดมีจำกัด: ข้อมูลและการวิเคราะห์ในคู่เงินพิเศษอาจมีน้อยเมื่อเทียบกับคู่เงินหลัก
วิธีการเริ่มต้นเทรดคู่เงินพิเศษ
หากคุณต้องการกระจายพอร์ตหรือขยายฐานการเทรดฟอเร็กซ์โดยเพิ่มคู่เงินพิเศษเข้าไป นี่คือวิธีเริ่มต้น:
- เปิดบัญชีเทรด:คุณจะต้องมีบัญชีเทรดเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งคุณจะสามารถส่งคำสั่งเทรดได้ที่นั่น Hantec Markets มีการลงทะเบียนบัญชีที่ง่ายดาย พร้อมการเข้าถึง MetaTrader 4 และ 5
- ทำการศึกษาค้นคว้า:สำรวจคู่เงินพิเศษต่างๆ ศึกษาเศรษฐกิจ และตรวจสอบปัจจัยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมที่อาจส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศเหล่านั้น สิ่งนี้จะช่วยในการคัดเลือกรายชื่อคู่เงินที่คุณจะเพิ่มลงในพอร์ต
- วางแผนว่าคุณจะบริหารความเสี่ยงอย่างไร: ใช้แนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยง เช่น ตั้งคำสั่ง Stop-Loss และหลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจมากเกินเงินทุนที่คุณมีเนื่องจากคู่เงินพิเศษนั้นมีความผันผวนที่สูงกว่า ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเคล็ดลับและเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง
- เริ่มต้นเทรด!ใช้ทักษะการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานแล้วเริ่มเทรดการเคลื่อนไหวของราคาของคู่เงินพิเศษที่คุณเลือก
- ติดตามข่าวสารและกิจกรรมต่างๆ:ติดตามข่าวสารและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่เกี่ยวข้องกับคู่เงินพิเศษอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราแลกเปลี่ยน
อย่าลืมตรวจสอบผลงานของคุณเพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะการเทรดอย่างต่อเนื่องในขณะที่คุณสำรวจโลกแสนตื่นเต้นของคู่เงินพิเศษ
ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ใช่ไหม? อ่านคู่มือเทรดฟอเร็กซ์สำหรับมือใหม่ของเราเลย
คำถามที่พบบ่อย
ถาม: ตัวอย่างคู่เงินพิเศษยอดนิยมมีอะไรบ้าง?
ตอบ: คู่เงินพิเศษยอดนิยม ได้แก่ USD/SGD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์สิงคโปร์), USD/THB (ดอลลาร์สหรัฐ/บาทไทย) และ EUR/HUF (ยูโร/โฟรินต์ฮังการี)
ถาม: อะไรคือปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความผันผวนในคู่เงินพิเศษ?
ตอบ: ความผันผวนของคู่เงินพิเศษได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยเป็นหลัก เช่น ความไม่มั่นคงทางการเมือง, ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราดอกเบี้ย, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในหัวข้อเหล่านี้อาจนำไปสู่การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงราคาได้
ถาม: มีช่วงเวลาเฉพาะเจาะจงระหว่างวันที่คู่เงินพิเศษจะมีการเทรดกันมากกว่าหรือไม่?
ตอบ: กิจกรรมการเทรดในคู่เงินพิเศษอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลาทำการซื้อขายของแต่ละประเทศ ตัวอย่างเช่น คู่ที่มีสกุลเงินเอเชียอาจมีการเทรดเพิ่มมากขึ้นในเซสชันเทรดของเอเชีย ในทำนองเดียวกัน คู่ที่มีสกุลเงินแอฟริกาหรืออเมริกาใต้อาจมีการเทรดกันมากกว่าในช่วงเวลาซื้อขายของยุโรปหรืออเมริกา
ถาม: ฉันสามารถเทรดคู่เงินพิเศษกับ Hantec Markets ได้หรือไม่?
ตอบ: ได้ คุณสามารถเทรดคู่เงินพิเศษได้ด้วยบัญชี Hantec Markets ของคุณ หากต้องการดูว่าคุณสามารถเทรดคู่ใดได้บ้าง ให้คุณเปิดบัญชีหรือติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของเราผ่านทางไลฟ์แชท
ถาม: กลยุทธ์การเทรดคู่เงินพิเศษที่ดีที่สุดมีกลยุทธ์ใดบ้าง?
ตอบ: กลยุทธ์การเทรดที่มีประสิทธิภาพสำหรับคู่เงินพิเศษมักเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานร่วมกัน เทรดเดอร์อาจเลือกใช้รูปแบบกราฟ, ตัวชี้วัดทางเทคนิค และระดับแนวรับ/แนวต้านสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การคอยติดตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจ, การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย และทิศทางของการเมืองเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะเข้าใจถึงการเคลื่อนไหวของราคาที่อาจเกิดขึ้น