ภาพการเงินทั่วโลกถูกกำหนดโดยวัฏจักรเศรษฐกิจ และภายในวัฏจักรนี้ มีแนวคิดเรื่องภาวะถดถอย ซึ่งหมายถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบอย่างน้อยสองไตรมาส ภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและการลงทุนด้วยลักษณะเด่นคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง ตัวอย่างล่าสุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยคือช่วงการระบาดของโควิด-19 ในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์คำถาม ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเทรดที่ผู้เทรดฟอเร็กซ์ควรจะทำหรือไม่? เราจะไปสำรวจแนวคิดเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความหมายของการทนต่อภาวะถดถอย การเทรดฟอเร็กซ์สามารถจัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ได้หรือไม่ และกลยุทธ์เพื่อให้การเทรดของคุณทนต่อภาวะถดถอย
เข้าใจถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ภาวะเศรษฐกิจถดถอยคือการที่เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งโดยทั่วไปกินเวลาสองไตรมาสติดต่อกัน โดยสังเกตได้จากการลดลงของจีดีพี อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง และกิจกรรมทางธุรกิจที่ชะลอตัวลง ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้ อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิต การก่อสร้าง และการค้าปลีกมักจะประสบปัญหาเนื่องจากความต้องการที่ลดลงและผลกำไรที่ลดลง อย่างไรก็ตาม บางภาคส่วนที่เรียกว่าอุตสาหกรรมที่ทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะมีความเข้มแข็งมากกว่าและยังสามารถเติบโตได้ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย (เพิ่มเติมด้านล่าง)
ในช่วงก่อนและระหว่างภาวะเศรษฐกิจถดถอย ตราสารทางการเงินบางรายการจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือพันธบัตร แต่สำหรับหุ้นและหลักทรัพย์นั้น โดยทั่วไปแล้วจะประสบกับช่วงเวลาที่มีความผันผวนและปรับลดลงอย่างมาก เมื่อเศรษฐกิจหดตัว รายได้และกำไรของบริษัทมีแนวโน้มที่จะลดลง ส่งผลให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อราคาหุ้นของบริษัท ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเริ่มมีการยั้งมือ และแรงเสี่ยงลงทุนก็เริ่มหดหาย ส่งผลให้มีการเทขายหุ้นออกอย่างกว้างขวางทั่วตลาดหุ้น อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพารายได้ที่ผู้บริโภคนำไปใช้จ่ายได้ เช่น สินค้าฟุ่มเฟือยหรือการเดินทาง ก็มักจะเผชิญกับการดิ่งลงอย่างมาก นอกจากนี้ สถาบันการเงินและธนาคารอาจตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเนื่องจากการผิดนัดชำระหนี้และการให้กู้ยืมที่ลดลง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกภาคส่วนจะได้รับผลกระทบเท่าเทียมกัน เนื่องจากอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคง เช่น สาธารณูปโภคและสินค้าอุปโภคบริโภค อาจแสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ดังนั้นเทรดเดอร์อาจมองหาช่องทางปรับปรุงผลตอบแทนของตนในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย และหันไปหาตลาดที่ทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้มากขึ้นแทน
ความสามารถในการทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายความว่าอย่างไร?
การทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยหมายถึงความสามารถของอุตสาหกรรมในการรักษาเสถียรภาพหรือแม้กระทั่งมีการเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ตัวอย่างของอุตสาหกรรมดังกล่าว ได้แก่ การดูแลสุขภาพ สาธารณูปโภค และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ตัวอย่างเช่น บริการด้านการดูแลสุขภาพยังคงเป็นที่ต้องการสูงไม่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรเนื่องจากความต้องการด้านสุขภาพของประชาชนยังคงมีอยู่ ในทำนองเดียวกัน สาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้าและประปา เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวัน ทำให้มั่นใจว่าจะยังเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อเราพิจารณาว่าการทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบริบทของการเทรดฟอเร็กซ์นั้นหมายความว่าอย่างไร เรากำลังตั้งคำถามว่า ผู้เทรดฟอเร็กซ์จะสามารถทำกำไรได้ต่อไปเมื่อเผชิญกับภาวะถดถอยหรือไม่
ตลาดฟอเร็กซ์ทนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่?
แต่ก็มีคุณลักษณะบางอย่างที่สามารถทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หนึ่งในคุณลักษณะเหล่านี้คือธรรมชาติของตลาดทั่วโลก ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เราประสบ (วิกฤตการเงินปี 2008 และการระบาดของโควิด-19) กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก เมื่อเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ผู้คนหันมาหาเงินดอลลาร์สหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าเงินดอลลาร์จะคงมูลค่าไว้ได้ พฤติกรรมที่คาดการณ์ได้นี้อาจเปิดให้ผู้เทรดฟอเร็กซ์ทำกำไรได้จากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ด้วยภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ท้องถิ่นมากขึ้น (ภาวะถดถอยที่ส่งผลกระทบต่อบางภูมิภาคเท่านั้น) ผู้เทรดฟอเร็กซ์สามารถใช้ประโยชน์จากความแตกต่างด้านความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจของภูมิภาคต่างๆ เหล่านี้ในการเทรดของตนเพื่อทำกำไร
ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ธนาคารกลางและรัฐบาลมักใช้นโยบายการเงินและการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การกระทำเหล่านี้อาจนำไปสู่ความผันผวนของค่าเงินและสร้างโอกาสให้กับการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ ตัวอย่างเช่น เมื่อธนาคารกลางของประเทศลดอัตราดอกเบี้ย สกุลเงินของประเทศนั้นอาจอ่อนค่าลง เปิดโอกาสให้เทรดเดอร์ทำกำไร
นอกจากนี้ตลาดฟอเร็กซ์ยังดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ความยืดหยุ่นนี้ทำให้พวกเขาสามารถปรับกลยุทธ์และใช้ประโยชน์จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นใหม่ได้ สิ่งนี้อาจทำให้ผู้เทรดฟอเร็กซ์สามารถทำกำไรจากตัวบ่งชี้ภาวะถดถอยได้
วิธีป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยในการเทรดของคุณ
แม้ว่าตลาดฟอเร็กซ์อาจมีข้อได้เปรียบบ้างในช่วงเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการตกต่ำได้ เทรดเดอร์สามารถดำเนินการบางอย่างเพื่อป้องกันการเทรดของตนจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย และรับมือกับช่วงเวลาที่ปั่นป่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น:
- บริหารความเสี่ยง: ใช้แนวทางปฏิบัติในการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณในช่วงที่มีความผันผวน หลีกเลี่ยงการใช้เลเวอเรจมากจนเกินไปและกำหนดระดับ Stop-Loss ที่เหมาะสมเพื่อจำกัดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น
- กระจายความเสี่ยง: กระจายพอร์ตการลงทุนของคุณโดยเพิ่มคู่เงินที่แตกต่างกัน กลยุทธ์นี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งได้
- รับทราบข้อมูลอยู่เสมอ: ติดตามข่าวสารเศรษฐกิจและตัวชี้วัดที่อาจส่งผลต่อค่าเงิน การรู้ว่าเมื่อใดมีกำหนดการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญช่วยให้คุณสามารถเตรียมพร้อมรับมือการเคลื่อนไหวของตลาดที่อาจเกิดขึ้นได้
- การปรับตัว: เตรียมพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณเมื่อสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ใช้ได้ผลในช่วงการขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจไม่ได้ผลในช่วงเศรษฐกิจถดถอย อาจมีแนวโน้มที่จะต้อง “ออกจาก” ตลาดฟอเร็กซ์และปรับกลยุทธ์การเทรดโดยไม่ต้องกังวลว่าพอร์ตของคุณจะอ่อนค่าลง ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย เงินสดมักมีประสิทธิภาพเหนือกว่าตราสารทางการเงินบางอย่าง
เป็นความคิดที่ดีที่จะใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เพื่อบริหารความเสี่ยงและปกป้องเงินทุนของคุณจากการตกต่ำที่อาจเกิดขึ้นในตลาด แต่ตามคำจำกัดความแล้ว การป้องกันความเสี่ยงนั้นเกี่ยวข้องกับการหักล้างสถานะเพื่อลดผลกระทบของการเคลื่อนไหวของราคาในเชิงลบ แม้ว่าการป้องกันความเสี่ยงจะจำกัดผลตอบแทนที่อาจได้รับในช่วงที่ไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ก็ช่วยให้เทรดเดอร์มีความปลอดภัยเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เทรดเดอร์จะมีความเสี่ยงน้อยลงในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำโดยการใช้เทคนิคการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยปกป้องพอร์ตของตนจากการขาดทุนมหาศาล อย่างไรก็ตาม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่จะต้องไม่ยอมจำนนต่อความโลภและเข้าใจว่าการป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการยอมเสียศักยภาพในการทำกำไรในระยะสั้นเพื่อให้มีสถานะระยะยาวที่ดีกว่า เทรดเดอร์ควรจัดสรรเงินทุนบางส่วนอย่างรอบคอบเพื่อเทรดแบบป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งช่วยให้มีความสมดุลและหลากหลายในกลยุทธ์การเทรดของตน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเกิดขึ้นได้ยาก แต่โอกาสที่จะเกิดการขาดทุนอย่างมากในการเทรดฟอเร็กซ์นั้นเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ไม่คาดฝันผ่านการบริหารความเสี่ยงและแนวปฏิบัติป้องกันความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์
สกุลเงินที่ปลอดภัยกับสกุลเงินที่มีความเสี่ยง
ในคุณลักษณะที่คาดเดาไม่ได้ของการเทรดฟอเร็กซ์ แนวคิดเรื่องสกุลเงินที่ปลอดภัยเทียบกับสกุลเงินที่มีความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจถดถอย แม้ว่าตลาดฟอเร็กซ์จะขึ้นชื่อในเรื่องความผันผวน แต่บางสกุลเงินก็มีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพมากขึ้นในช่วงเวลาที่สับสนอลหม่าน จนได้รับสมญานามว่า “ที่หลบภัย” ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยที่สุด และสกุลเงินที่ปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ ฟรังก์สวิส (CHF) และเยนญี่ปุ่น (JPY) สกุลเงินเหล่านี้เป็นที่ต้องการของนักลงทุนที่ต้องการปกป้องเงินทุนของตนจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย สกุลเงินเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนหนีจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการป้องกันความเสี่ยงจากความวุ่นวายในตลาด
สกุลเงินที่มีความเสี่ยงหรือที่เรียกว่าสกุลเงินที่ผันผวน คือสกุลเงินที่อ่อนไหวต่อความผันผวนและความไม่แน่นอนในตลาดฟอเร็กซ์มากกว่า สกุลเงินเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับประเทศที่เผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ หรือการต้องพึ่งพาสินค้าโภคภัณฑ์ในระดับสูง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของสกุลเงินที่มีความเสี่ยงคือเรอัลบราซิล (BRL) ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างมากจากประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ทิศทางการเมือง และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันและแร่เหล็ก อีกตัวอย่างหนึ่งคือแรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) ซึ่งมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความผันผวนของทองคำและราคาโลหะมีค่าอื่นๆ ตลอดจนปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้ ลีราตุรกี (TRY) ยังโดดเด่นในฐานะสกุลเงินที่มีความเสี่ยง เนื่องจากความอ่อนไหวของตุรกีต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภายนอกและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับผู้เทรดฟอเร็กซ์ สกุลเงินที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้มีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ต้องใช้แนวทางการเทรดที่ระมัดระวังและเปรื่องปราดมากขึ้น
แม้ว่าการเทรดฟอเร็กซ์จะไม่ถือว่าสามารถป้องกันภาวะถดถอยได้ทั้งหมด แต่การดำเนินการเชิงกลยุทธ์อย่างการซื้อสกุลเงินที่ปลอดภัยเมื่อเศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอยสามารถใช้เป็นแนวทางการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวซับแรงปะทะจากลมพายุแห่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจได้ นอกจากนี้ยังควรค่าแก่การพูดถึงแนวคิดเรื่องคำทำนายที่ทำให้เป็นจริงด้วยตัวของมันเองด้วย หากผู้เทรดฟอเร็กซ์ทุกคนในช่วงเศรษฐกิจถดถอยตัดสินใจหันไปหาสกุลเงินที่ปลอดภัย ก็มีแนวโน้มว่าสกุลเงินนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และสกุลเงินอื่นๆ ที่ถูกมองว่าน่าดึงดูดน้อยกว่าก็จะมีมูลค่าลดลง สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำแนวคิดที่ว่าสกุลเงินที่ปลอดภัยเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมในการป้องกันความเสี่ยงต่อประสิทธิภาพของเศรษฐกิจ
สรุปใจความสำคัญ
แม้ว่าตลาดฟอเร็กซ์จะมอบโอกาสให้กับเทรดเดอร์ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าไม่มีการลงทุนใดที่รับประกันว่าสามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้โดยสิ้นเชิง ภาพเศรษฐกิจโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และแม้กระทั่งการเทรดแบบป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็อาจขาดทุนหรือทำกำไรได้น้อยลงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว ในฐานะผู้เทรดฟอเร็กซ์ การรับทราบข้อมูล การบริหารความเสี่ยงที่ดี และการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว โปรดจำไว้ว่าความเข้มแข็งและความยืดหยุ่นเป็นคุณลักษณะสำคัญในการรับมือกับความซับซ้อนของตลาดฟอเร็กซ์ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโตหรือถดถอย