สมมติว่าคุณคุ้นเคยกับแนวคิดเกี่ยวกับฟอเร็กซ์อยู่แล้ว คุณอาจอยากที่จะเพิ่มพูนความรู้ก่อนที่จะเริ่มเทรด ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่ยอดเยี่ยมในเส้นทางฟอเร็กซ์เนื่องจากการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดจะช่วยคุณได้ในอนาคต วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับฟอเร็กซ์ ให้คุณคุ้นเคยกับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้อง สรุปกลยุทธ์และสไตล์การเทรดต่างๆ และเสนอเคล็ดลับสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนเริ่มการเทรด
สารบัญ:
ฟอเร็กซ์คืออะไร?
ฟอเร็กซ์ (Forex) หรือที่เรียกว่า FX หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ คือตลาดที่มีการซื้อและขายสกุลเงิน เนื่องจากมีลักษณะเป็นสากล ตลาดฟอเร็กซ์จึงเปิดตลอด 24 ชั่วโมงตลอดทั้งสัปดาห์ โดยมีการเทรดเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในเขตเวลาที่ต่างกัน ฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในโลกการเงิน และให้โอกาสเทรดในระดับโลก
การเทรดฟอเร็กซ์สามารถให้ผลกำไรและความสนุกได้ แต่ก็ต้องใช้ความรู้และทักษะในระดับหนึ่ง และเพื่อให้ประสบความสำเร็จ เทรดเดอร์จะต้องเข้าใจพื้นฐานของตลาด รวมถึงตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ แนวโน้มของตลาด และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงิน นอกจากนั้นยังต้องพัฒนาแผนการเทรดและกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องเงินทุนของตน
ก่อนที่คุณจะเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษาค้นคว้าและมีความเข้าใจในตลาดอย่างถ่องแท้ ซึ่งรวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ประเภทต่างๆ เช่น สปอตและการเทรดล่วงหน้า รวมถึงแพลตฟอร์มเทรดและเครื่องมือต่างๆ ที่มีให้ใช้งาน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับความเข้าใจในปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อค่าเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และเหตุการณ์ทางการเมือง เราจะพูดถึงเรื่องนี้เพิ่มเติมด้านล่าง
แม้การเทรดฟอเร็กซ์อาจเป็นวิธีที่ดีในการเทรด แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าหาด้วยความระมัดระวัง ด้วยความเข้าใจอย่างละเอียดเกี่ยวกับตลาดและมีแผนการเทรดที่ดี คุณจะสามารถลดความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไรสูงสุดได้
คำศัพท์ฟอเร็กซ์
เราจะใช้คำศัพท์ที่สำคัญบางคำในบทความนี้ ดังนั้นอย่าลืมทำความเข้าใจในคำศัพท์ด้านล่างด้วย:
- คู่เงิน: สองสกุลเงินที่มีการเทรดระหว่างกันในตลาดฟอเร็กซ์ โดยจะแสดงด้วยรหัสสามตัวอักษร เช่น EUR/USD (ข้อยกเว้นในกฎนี้คือการเทรดเคเบิล ซึ่งเป็นศัพท์สำหรับคู่ GBP/USD โดยมีต้นกำเนิดมาจากในช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนถูกส่งผ่านสายเคเบิลใต้มหาสมุทรแอตแลนติก)
- ลอง (Long): สถานะที่ดำเนินการโดยเทรดเดอร์ที่คาดว่าสกุลเงินจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น หมายความว่าพวกเขาซื้อสกุลเงินมาและหวังที่จะขายในราคาที่สูงขึ้นในอนาคต
- ชอร์ต (Short): สถานะที่ดำเนินการโดยเทรดเดอร์ที่คาดว่าสกุลเงินจะมีมูลค่าลดลงหมายความว่าพวกเขาขายสกุลเงินไปและหวังที่จะซื้อกลับมาในราคาที่สูงขึ้นในอนาคต
- แฟลต (Flat): สถานะที่เทรดเดอร์ไม่มีความเสี่ยงต่อคู่สกุลเงินใดคู่หนึ่ง
- สเเควร์ (Square): คำที่ใช้อธิบายเทรดเดอร์ที่ไม่มีสถานะเปิดอยู่ในตลาด
- ฟอร์เวิร์ด: การเทรดฟอเร็กซ์ประเภทหนึ่งที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะซื้อขายสกุลเงิน ณ วันที่ในอนาคตและตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- ฟิวเจอร์ส: คล้ายกับฟอร์เวิร์ด แต่มีการเทรดกันในตลาดหลักทรัพย์และมีมาตรฐานในแง่ของขนาด วันหมดอายุ และการชำระบัญชี
- ออปชั่น: ให้สิทธิ์แก่ผู้ถือ แต่ไม่ใช่ข้อผูกมัด ในการซื้อหรือขายคู่เงินในราคาและเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าในอนาคต
- เสนอซื้อ (Bid): ราคาที่เทรดเดอร์ยินดีซื้อคู่เงินหรือราคาที่คุณสามารถขายได้
- เสนอขาย (Ask): ราคาที่เทรดเดอร์ยินดีขายคู่เงินหรือราคาที่คุณสามารถซื้อได้
- สเปรด: ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อกับเสนอขายของคู่เงิน
ทำไมคุณถึงควรเทรดฟอเร็กซ์?
การเทรดฟอเร็กซ์เปิดโอกาสให้นักลงทุนทำกำไรได้สองวิธี: โดยการใช้ประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงิน และโดยการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารกลางมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศและนำไปสู่ความแตกต่างในมูลค่าของสกุลเงิน เทรดเดอร์จะได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนโดยการซื้อสกุลเงินในราคาที่ต่ำกว่าที่พวกเขาขายในท้ายที่สุด เทรดเดอร์สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกทั้งสองนี้ได้โดยทำการ Long หรือ Short คู่เงิน ขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ที่มีต่อการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนและการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย
มีเหตุผลหลายประการที่ฝ่ายต่างๆ จะเทรดฟอเร็กซ์ ประการแรกคือการเก็งกำไรซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยต่างๆ เช่น ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ แนวโน้มของตลาด และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าเหตุผลของความผันผวนจะมาจากสิ่งใด เทรดเดอร์ก็สามารถถือสถานะในสกุลเงินเพื่อทำกำไรได้
เหตุผลที่สองคือการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งมักใช้โดยบริษัทที่มีการดำเนินงานระดับโลกที่สำคัญและมีฐานเงินทุนขนาดใหญ่ บริษัทเหล่านี้มักใช้ตลาดฟิวเจอร์สหรือฟอร์เวิร์ดเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและเอาชนะความผันผวนของตลาด
เหตุผลที่สามเกี่ยวข้องกับเทรดเดอร์เป็นรายบุคคลมากที่สุด เนื่องจากการเทรดฟอเร็กซ์นั้นน่าสนใจและมีความสนุก และอาจนำไปสู่การจุดประกายความหลากหลายในชีวิตประจำวันของคุณ
นอกจากนี้ ตลาดฟอเร็กซ์ยังมีสภาพคล่องสูง หมายความว่ามีโอกาสมากมายที่จะเข้าและออกจากการเทรดได้อย่างรวดเร็ว และตลาดยังเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้เทรดเดอร์สามารถเข้าร่วมได้ตลอดเวลาโดยไม่คำนึงถึงสถานที่อยู่ของพวกเขา
คุณสามารถเทรดอะไรในฟอเร็กซ์ได้บ้าง?
ตลาดฟอเร็กซ์มีตราสารที่สามารถเทรดได้อยู่มากมาย รวมถึงคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD, USD/JPY และ GBP/USD และคู่เงินรองและคู่เงินพิเศษ นอกเหนือจากการเทรดสกุลเงินแล้ว เทรดเดอร์ยังสามารถเทรดฟิวเจอร์ส, ฟอร์เวิร์ด, ออปชั่น และกองทุนรวมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) ที่ติดตามประสิทธิภาพของคู่เงินหรือกลุ่มสกุลเงินต่างๆ
สไตล์การเทรดแบบใดที่คุณสามารถใช้ได้ในฟอเร็กซ์?
ผู้เทรดฟอเร็กซ์ใช้สไตล์การเทรดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบและเป้าหมายส่วนตัวของพวกเขา เราจะพูดถึงสไตล์ต่างๆ เหล่านี้ด้านล่าง และขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกใช้สไตล์ไหนที่เหมาะกับคุณที่สุด
อย่างแรกเรามีการเทรดแบบ Scalping ซึ่งเป็นการเทรดหลายครั้งตลอดทั้งวันโดยมีเป้าหมายเพื่อเก็บการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กน้อย อีกรูปแบบหนึ่งคือการเทรดรายวันหรือเดย์เทรด ซึ่งเป็นการเปิดและปิดการเทรดภายในวันเดียวกัน โดยปกติแล้วจะมีกรอบเวลานานกว่าการเทรดแบบ Scalping การเทรดจากการสวิงเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เทรดเดอร์ถือสถานะเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อเก็บการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง สุดท้ายเรามีการเทรดตามสถานะซึ่งเป็นการถือเป็นเวลาหลายเดือนหรือเป็นปีเพื่อเก็บแนวโน้มระยะยาวในตลาด สไตล์การเทรดแต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง และคุณควรเลือกรูปแบบที่สอดคล้องกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เป้าหมายการเทรด และเวลาที่คุณมี ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเวลาเหลือเฟือในระหว่างวันและสามารถรับความเสี่ยงได้สูง คุณอาจเลือกเทรดแบบ Scalping สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจะใช้รูปแบบเหล่านี้ผสมผสานกันเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด
การเก็งกำไร
การเก็งกำไรในตลาดฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด, ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ, เหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และแหล่งข่าวเพื่อทำการตัดสินใจเทรดอย่างมีข้อมูล เทรดเดอร์ควรทราบและเข้าใจตัวชี้วัดสำคัญ เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ และข้อมูลการจ้างงาน เนื่องจากสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมูลค่าของสกุลเงิน นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเทรดเดอร์จึงเลือกเพียงคู่เงินเดียวในตอนเริ่มต้น เพราะปริมาณข้อมูลที่จำเป็นต้องรู้นั้นมีมหาศาล นอกจากนี้ การติดตามข่าวสารล่าสุดจากแหล่งข่าวทั่วโลก เช่น เครือข่ายข่าวการเงินและโซเชียลมีเดียสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดและโอกาสในการเทรดที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือการคิดไอเดียในการเทรดใหม่ๆ อาจเป็นเรื่องยาก และส่วนใหญ่แล้วนักเทรดฟอเร็กซ์ทั่วไปเช่นคุณมักจะอยู่ส่วนปลายในการเคลื่อนไหวของตลาด นั่นเป็นเพราะว่าตลาดฟอเร็กซ์มีการแข่งขันสูงและมีประสิทธิภาพสูง โดยที่ข้อมูลจะแสดงให้เห็นในมูลค่าของสกุลเงินอย่างรวดเร็ว
การเทรดครั้งแรก
เมื่อทำการเทรดครั้งแรกในตลาดฟอเร็กซ์ สิ่งสำคัญคือต้องเริ่มต้นด้วยการเลือกคู่เงินที่คุณอาจมีความคุ้นเคย (คุณอาจมีพื้นฐานเกี่ยวกับสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่ง หรืออาจเป็นสกุลเงินในประเทศของคุณเองก็ได้) ตัวเลือกที่ดีที่สุดคือการยึดอยู่กับคู่เงินหลัก เช่น EUR/USD หรือ USD/JPY เนื่องจากสกุลเงินพิเศษอาจมีความผันผวนและมีความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ จากนั้นเลือกสไตล์การเทรดของคุณ ซึ่งอาจเป็นรูปแบบใดก็ได้ที่กล่าวไว้ข้างต้น สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาแผนการเทรดตามสไตล์ที่คุณเลือก รวมถึงการตั้งจุดหยุด ขีดจำกัด และเป้าหมายกำไร ลองจดบันทึกการเทรดเพื่อติดตามความคืบหน้าและเรียนรู้จากความผิดพลาดของคุณ การค้นหาแหล่งข้อมูลและหาที่ปรึกษาเพื่อแนะนำคุณตลอดกระบวนการก็จะเป็นประโยชน์เช่นกัน เมื่อคุณพร้อมที่จะทำการเทรดครั้งแรกแล้ว ให้ตั้งค่าบัญชีบนแพลตฟอร์มฟอเร็กซ์ เช่น MetaTrader 4 ของ Hantec Markets และทำการเทรดในคู่เงินที่คุณเลือก คอยจับตาดูสถานะของคุณอย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมที่จะขายเพื่อให้ได้กำไรหรือขาดทุน ขึ้นอยู่กับจุดหยุดและขีดจำกัดของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องยึดมั่นในกลยุทธ์และอย่าท้อแท้กับการขาดทุนในระยะสั้น ตราบใดที่คุณได้ทำการค้นคว้าและพัฒนาแผนการเทรดที่มีประสิทธิภาพแล้ว ด้วยวินัยและการฝึกฝน แม้แต่เทรดเดอร์มือใหม่ก็สามารถประสบความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ได้
ข้อเสียของการเทรดฟอเร็กซ์
เราได้พูดลงรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ไปแล้ว และคุณควรตระหนักดีถึงข้อดีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการเทรดในประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม เป็นผลประโยชน์ต่อตัวคุณเองที่จะต้องตระหนักถึงข้อเสียของการเทรดฟอเร็กซ์ก่อนที่จะตัดสินใจว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่ ข้อเสียหลักประการหนึ่งของการเทรดฟอเร็กซ์คือความเสี่ยงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนอย่างมากหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทางกับคุณ นอกจากนี้ ตลาดฟอเร็กซ์อาจมีความผันผวนสูงและคาดเดาไม่ได้ ทำให้เป็นการยากที่จะเทรดแล้วมีกำไรอย่างสม่ำเสมอ และอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายในการที่จะติดตามการเปลี่ยนแปลงและการอัปเดตอย่างต่อเนื่องในเศรษฐกิจโลกและเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงิน ปริมาณปัจจัยที่เป็นไปได้ที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์สหรัฐเพียงสกุลเดียวแสดงให้คุณเห็นว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดตามข้อมูลทั้งหมดที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจ ดังนั้นคุณจึงต้องมีกลยุทธ์ในการคัดเลือกข้อมูลที่คุณจะให้น้ำหนัก สุดท้ายนี้ การเทรดฟอเร็กซ์อาจต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก รวมถึงการพัฒนาแผนการเทรด การติดตามตลาด และการหาความรู้ให้ตัวเองอย่างต่อเนื่องในด้านกลยุทธ์และแนวโน้มใหม่ๆ ซึ่งโดยรวมแล้ว แม้ว่าการเทรดฟอเร็กซ์อาจเป็นโอกาสที่คุ้มค่าและน่าตื่นเต้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องเข้าหาด้วยความระมัดระวังและตระหนักถึงความเสี่ยงและข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น
สรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์
แม้การเทรดฟอร็กซ์จะช่วยจุดประกายและสร้างผลกำไร แต่ก็ต้องมีความรู้และทักษะระดับสูงด้วย และคุณต้องทำงานได้ดีภายใต้สภาวะที่ตึงเครียด ก่อนที่จะเริ่มเทรดฟอเร็กซ์ สิ่งสำคัญคือต้องทำการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียด เข้าใจถึงพื้นฐานของตลาด พัฒนาแผนการเทรดที่มีประสิทธิภาพ และใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณ บทความนี้จะช่วยให้คุณอยู่ในจุดเริ่มต้นที่ดีขึ้นสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ครั้งแรก หรืออย่างน้อยที่สุดก็ระบุได้ว่าเหตุใดการเทรดฟอเร็กซ์จึงไม่เหมาะกับคุณ