การเทรด CFD คืออะไร
สัญญาซื้อขายส่วนต่างหรือ CFD
ข้อมูลของสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ที่เราจะพูดถึง ได้แก่ ประวัติ นิยาม และผลของการเทรด CFD โดยจะพิจารณาถึงประโยชน์ที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุ นแต่ละรายจะได้รับ
สำหรับเทรดเดอร์รายย่อยหรือผู้ที่ร่วมเทรดในตลาด โลกแห่งการเทรดและการลงทุนได้ขยายตัวในศตวรรษที่ 21 เพื่อนำเสนอโอกาสที่คาดไม่ถึงในปลายศตวรรษที่ 20 ความก้าวหน้าเหล่านี้เกิดขึ้นจากการพัฒนาทางเทคโนโลยี ความเปิดกว้างของตลาดเงิน และประชากรที่มีความเข้าใจในการเทรดและการลงทุนที่ดีกว่าในอดีต รวมไปถึงการพัฒนาตลาด CFD
ประโยชน์ของการเทรด CFD
ประโยชน์หลักสามประการจากการเทรดโดยใช้ CFD:
- 1. ความสามารถที่จะเปิดสถานะ Short และ Long
- 2. ศักยภาพในการเทรดด้วยเลเวอเรจหรือมาร์จิ้น
- 3. ความสามารถที่จะป้องกันความเสี่ยง
CFD: ประวัติย่อ
CFD พัฒนาขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970 ที่ลอนดอนโดยคิดค้นขึ้นเพื่อนักลงทุนสถาบันในช่วงแรก CFD มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้นักลงทุนและเฮดจ์ฟันด์เพิ่มโอกาสในตลาดของตนเอง (เราจะพูดถึงเรื่องเลเวอเรจทางด้านล่าง) และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงให้สถานะ (เราจะพิจารณาเรื่องการป้องกันความเสี่ยงในภายหลังเช่นกัน)
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 โบรกเกอร์รายย่อยเริ่มใช้ CFD เพื่อให้เทรดเดอร์และนักลงทุนบุคคลเทรดและลงทุนในสินทรัพย์ได้หลายประเภท ซึ่งทำให้บุคคลสามารถเทรดสินทรัพย์และตลาดจำนวนมากสามารถเปิด “Short” สินทรัพย์เหล่านี้ได้ โดยที่ก่อนหน้านี้จะสามารถซื้อและเป็นเจ้าของสินทรัพย์ (เปิด “Long”) ได้เท่านั้น
นอกจากนี้ โบรกเกอร์รายย่อยได้ให้บริการการเทรดด้วยมาร์จิ้นแก่นักลงทุนรายย่อย ซึ่งช่วยเพิ่มศักยภาพให้เงินต้นและเงินทุน
1. การเปิดสถานะ Short และ Long
2. เลเวอเรจ/มาร์จิ้น
วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำความเข้าใจแนวคิดของหลักประกันและเลเวอเรจก็คือ ดูตัวอย่าง ลองดูราคาทองคำและดูว่าเลเวอเรจทำงานอย่างไรเมื่อเทรดหรือลงทุนใน CFD หากคุณคิดว่าราคาทองคำกำลังจะขึ้น คุณอาจซื้อทองคำจริงหรือซื้อ CFD ทองคำ (โดยที่คุณไม่ต้องเป็นเจ้าของทองคำ)
หากคุณมีเงิน $10,000 ในบัญชีการลงทุนที่ไม่มีเลเวอเรจและทองคำกำลังเทรดที่ $1,000/ออนซ์ คุณก็สามารถซื้อทองคำ 10 ออนซ์ ซึ่งต้องใช้เงินทั้งหมด $10,000 ในบัญชีคุณ แต่หากคุณใช้เงิน $10,000 เท่าเดิมซื้อ CFD ทองคำซึ่งเทรดด้วยมาร์จิ้น (มีเลเวอเรจ) คุณก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินในบัญชีมากเช่นนั้นเพื่อซื้อทองคำที่เทียบเท่ากับ 10 ออนซ์
ตัวอย่างเช่น หากเลเวอเรจของคุณเป็น 5 เท่า หมายความว่าคุณจะต้องใช้เงินในบัญชีมูลค่าเพียง 20% เท่านั้น คุณจึงต้องการเงินเพียง $2,000 เพื่อซื้อทองคำ 1 ออนซ์ หากคุณมีเงินในบัญชี CFD จำนวน $10,000 คุณก็จะสามารถซื้อทองคำ 50 ออนซ์ในรูปแบบ CFD ได้ ดังนั้น เลเวอเรจของบัญชี CFD ก็คือ 5 เท่าของบัญชีการลงทุนที่ไม่มีเลเวอเรจนั่นเอง
แนวคิดของเลเวอเรจดังกล่าวหมายความว่าหากทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นสองเท่าจาก $1,000/ออนซ์ไปเป็น $2,000/ออนซ์และคุณได้ลงทุนด้วยบัญชีการลงทุนที่ไม่มีเลเวอเรจ คุณจะได้กำไรจากบัญชีที่ไม่มีเลเวอเรจ 100% ของ $10,000
แต่สำหรับบัญชี CFD คุณจะสามารถซื้อทองคำได้ 5 เท่า ดังนั้นหากราคาทองคำขยับจาก $1,000/ออนซ์ไปเป็น $2,000/ออนซ์ คุณก็จะได้ผลตอบแทน 500% ซึ่งเท่ากับกำไร $50,000 นี่คือประโยชน์ของการเทรดด้วยเลเวอเรจหรือมาร์จิ้น
โปรดอย่าลืมว่าหากราคาทองคำร่วงลง 20% ไปที่ $800/ออนซ์ มูลค่าในบัญชีที่ไม่มีเลเวอเรจจะลดลงจาก $10,000 ไปเป็น $8,000 แต่หากเทรดเช่นเดียวกันนี้ในบัญชี CFD ที่มีเลเวอเรจ 5 เท่า เงินในบัญชีก็อาจจะหายไป 100% ซึ่งเท่ากับ $10,000 ดังนั้น การเทรด CFD ด้วยมาร์จิ้นโดยใช้เลเวอเรจจะเท่ากับผลตอบแทนที่อาจมากขึ้น แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่จะขาดทุนมากขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน
3. การป้องกันความเสี่ยง
ประโยชน์อีกประการของการใช้ CFD สำหรับนักลงทุน (ซึ่งตรงข้ามกับเทรดเดอร์) ก็คือเรื่องการป้องกันความเสี่ยง การป้องกันความเสี่ยงจะเกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนต้องการลดความเสี่ยงจากการที่ตลาดอาจเคลื่อนไหวในอนาคต ซึ่งสามารถดำเนินการได้โดยลดผลกระทบของความเสี่ยงในตลาดด้วยสถานะทิศทางตรงกันข้ามในตลาดเดียวกัน
ลองใช้ตัวอย่างว่าคุณมีพอร์ตการลงทุนที่มีหุ้นเยอรมันหลายตัว แต่คุณกังวลว่าหุ้นเหล่านี้หลายตัวหรือตลาดหุ้นทั่วโลกที่ใหญ่กว่ามีความเสี่ยงที่จะปรับฐานเป็นขาลงในระยะสั้น คุณจึงควรใช้ CFD เพื่อชดเชยอันตรายดังกล่าว คุณสามารถเลือกขาย CFD ดัชนีหุ้นเยอรมันซึ่งก็คือ DAX (GER30 ของ Hantec Markets) หากตลาดที่ใหญ่กว่าปรับตัวลดลง จากนั้น การขาดทุนของพอร์ตการลงทุนหุ้นอาจได้รับการถ่วงดุลบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยกำไรจากการ Short GER 30 CFD แต่หากหุ้นปรับตัวบวก ราคาของทั้งคู่ก็จะชดเชยกันอีกครั้ง ดังนั้น แม้คุณอาจเสียกำไรที่อาจได้จากหุ้นไป แต่ความเสี่ยงก็จะถูกจำกัดหรือป้องกันไว้
ตอนนี้ คุณก็เข้าใจ CFD ได้ดียิ่งขึ้นแล้ว อาจถึงเวลาที่จะเปิดบัญชีทดลองกับเรา