อัปเดตเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2568 โดย Aaron Akwu
เศรษฐกิจโลกเป็นภูมิทัศน์ที่กว้างใหญ่และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยมีบางประเทศที่ขึ้นมาโดดเด่นและบางประเทศที่ลดระดับลงในด้านเศรษฐกิจ เมื่อเราก้าวเข้าสู่กลางปี 2025 เทรดเดอร์ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องเข้าใจสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจหลักของโลก
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก 10 อันดับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามตัวเลข GDP พร้อมอัปเดตการเปลี่ยนแปลงในลำดับ อันดับเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดตามภูมิภาค และไฮไลต์ประเทศที่มีการเติบโตน่าจับตามอง
แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น เราควรทำความเข้าใจว่าหมายถึงอะไรเมื่อเราพูดถึง “เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก” และวิธีที่เราใช้ในการวัดขนาดเศรษฐกิจเหล่านั้นคืออะไรบ้าง
| ลำดับ | ประเทศ | GDP ปี 2025 (ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ)* |
|---|---|---|
| 1 | สหรัฐอเมริกา | 30.5 |
| 2 | ประเทศจีน | 19.2 |
| 3 | เยอรมัน | 4.7 |
| 4 | อินเดีย | 4.2 |
| 5 | ญี่ปุ่น | 4.2 |
| 6 | สหราชอาณาจักร | 3.8 |
| 7 | ฝรั่งเศส | 3.2 |
| 8 | อิตาลี | 2.4 |
| 9 | แคนาดา | 2.2 |
| 10 | บราซิล | 2.1 |
ที่มา: Statista
สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้นำของโลกด้วย GDP ตามราคาตลาดที่แข็งแกร่งประมาณ 30.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โดดเด่น ได้แก่ นวัตกรรม การบริโภคภาคเอกชน และฐานอุตสาหกรรมที่หลากหลาย
เศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีลักษณะเด่นคือ ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัว ซึ่งช่วยให้ประเทศสามารถฝ่าวิกฤตทางการเงินหลายครั้ง และกลับมาแข็งแกร่งยิ่งขึ้นทุกครั้ง อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในซิลิคอนแวลลีย์ บริการทางการเงินในวอลล์สตรีท และเครือข่ายธุรกิจขนาดกลางและเล็กทั่วประเทศ ล้วนเป็นแรงผลักดันสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
เกร็ดน่ารู้: หากรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นประเทศอิสระ จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก
ด้วย GDP ประมาณ 19.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนยังคงเป็นผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งอย่างใกล้ชิด ภาคการผลิตขนาดมหาศาลและตลาดผู้บริโภคที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้จีนกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
โครงการ Belt and Road Initiative (หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง) รวมถึงการให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และพลังงานหมุนเวียน กำลังผลักดันเศรษฐกิจจีนให้เติบโตต่อเนื่องในอนาคต
เกร็ดน่ารู้: จีนผลิตสินค้าในภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 28% ของการผลิตทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งมากกว่าผลรวมของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเยอรมนีรวมกันอีกด้วย
เยอรมนียังคงครองตำแหน่งเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ด้วย GDP ประมาณ 4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ประเทศนี้มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศทางวิศวกรรม โดยมีอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรที่มีความแม่นยำ ยา และเคมีภัณฑ์ ที่แข็งแกร่ง ซึ่งล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการส่งออกที่มั่นคง
เกร็ดน่ารู้: เยอรมนีเป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับ 3 ของโลก
แม้จะมีประชากรเพียงกว่า 1% ของประชากรทั้งโลกเท่านั้น
อินเดียขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ของโลก โดยมี GDP ประมาณ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่น่าจับตามองคือ อินเดียมีอัตราการเติบโตของ GDP ต่อปีสูงที่สุดในกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 4%
เศรษฐกิจของอินเดียขยายตัวอย่างรวดเร็วจากการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน บริการเทคโนโลยี และตลาดผู้บริโภคที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
เกร็ดน่ารู้: อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก และยังเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2025 อีกด้วย
ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับถัดจากอินเดีย ด้วย GDP ราว 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะเผชิญกับความท้าทาย เช่น ปัญหาสังคมผู้สูงอายุ แต่ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในเทคโนโลยี หุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยยังคงมีบทบาทสำคัญในการค้าโลกอย่างต่อเนื่อง
เกร็ดน่ารู้: ญี่ปุ่นมีประชากรอายุเกิน 100 ปีมากกว่า 75,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนต่อหัวประชากรสูงที่สุดในโลก
เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรมีขนาดอยู่ที่ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาคการเงินในกรุงลอนดอนยังคงเป็นศูนย์กลางหลักของเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมยารักษาโรค อุตสาหกรรมการบิน และเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง
เกร็ดน่ารู้: The City of London ดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน
ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ฝรั่งเศสมีขนาด GDP ประมาณ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สินค้าหรูหรา อุตสาหกรรมการบิน และเกษตรกรรม การลงทุนอย่างต่อเนื่องในพลังงานที่ยั่งยืนและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลยังช่วยสนับสนุนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ
เกร็ดน่ารู้: ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก
โดยมีนักท่องเที่ยวเกือบ 90 ล้านคนต่อปี
เศรษฐกิจของอิตาลีมีขนาดประมาณ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีจุดแข็งในด้านการผลิตสินค้าหรู อุตสาหกรรมยานยนต์ และแฟชั่น อิตาลียังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุน GDP อย่างมาก
เกร็ดน่ารู้: อิตาลีเป็นผู้ผลิตสินค้าหรูอันดับ 1 ของโลก
โดยเป็นที่ตั้งของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Ferrari, Gucci และ Prada
แคนาดามีขนาด GDP อยู่ที่ประมาณ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากทรัพยากรธรรมชาติ การส่งออกพลังงาน ภาคเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมบริการทางการเงินที่แข็งแกร่ง
เกร็ดน่ารู้:
แคนาดามีปริมาณน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
รองจากเวเนซุเอลาและซาอุดีอาระเบียเท่านั้น
บราซิลปิดท้าย 10 อันดับแรกของโลกด้วยขนาด GDP ประมาณ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีภาคเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ การเกษตร การทำเหมือง การผลิตพลังงาน และอุตสาหกรรมการผลิต
เกร็ดน่ารู้: บราซิลเป็นผู้ส่งออกกาแฟ น้ำตาล และน้ำส้มรายใหญ่ที่สุดของโลก
นอกเหนือจาก 10 อันดับประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกแล้ว ภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกยังคงถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มประเทศสำคัญในลำดับถัดไป ประเทศอย่างรัสเซีย สเปน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย เม็กซิโก ตุรกี อินโดนีเซีย เนเธอร์แลนด์ ซาอุดีอาระเบีย และโปแลนด์ อยู่ในอันดับที่ 11 ถึง 20 ตามการคาดการณ์ของปี 2025
แม้จะไม่ได้อยู่ในระดับผู้นำบนตาราง GDP แต่ประเทศเหล่านี้ก็ถือเป็น “พลังขับเคลื่อน” สำคัญในระดับภูมิภาค มีบทบาทในการส่งเสริมนวัตกรรม การเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีส่วนสำคัญในด้านการค้าโลก ตลาดพลังงาน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
ตั้งแต่การส่งออกเทคโนโลยีของเกาหลีใต้ เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยทรัพยากรของออสเตรเลีย ภาคพลังงานของซาอุดีอาระเบีย ไปจนถึงฐานการผลิตที่เติบโตของเม็กซิโก — ประเทศเหล่านี้เป็น “จุดเชื่อมสำคัญ” ในเครือข่ายเศรษฐกิจโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน แม้ว่าตัวเลข GDP ที่แน่นอนอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรอรอการอัปเดต แต่บทบาทเชิงกลยุทธ์และความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ยังคงชัดเจนและยั่งยืน
ณ ปี 2025 ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในแต่ละทวีปสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลก
ในทวีปเอเชีย: จีน ครองตำแหน่งผู้นำ ด้วยขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา
ในยุโรป: เยอรมนี เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ยังคงเป็นศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมและพลังทางเศรษฐกิจของทวีป
ในอเมริกาใต้: บราซิล เป็นผู้นำ ด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และภาคบริการที่เติบโต
ในแอฟริกา: ไนจีเรีย มีขนาด GDP ใหญ่ที่สุด ขับเคลื่อนโดยภาคพลังงาน (น้ำมัน) และประชากรที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) คือ มูลค่ารวมของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายทั้งหมดที่ผลิตได้ภายในประเทศในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปจะคำนวณเป็นรายปี
GDP มักถูกคำนวณด้วย 3 วิธีหลัก ได้แก่:
GDP เป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญสำหรับการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจและศักยภาพในการเติบโตของประเทศ
กร็ดน่ารู้: ขนาดเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา (30.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใหญ่กว่าขนาดเศรษฐกิจรวมของประเทศอันดับ 3 ถึง 10 (ตั้งแต่เยอรมนีถึงบราซิล) ซึ่งรวมกันอยู่ที่ประมาณ 27 ล้านล้านดอลลาร์!
เศรษฐกิจโลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยแต่ละประเทศมีบทบาทในการสร้างสรรค์โครงสร้างที่ซับซ้อนของการค้าและการเงินระหว่างประเทศ การทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันและปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีส่วนร่วมในตลาดโลก ขณะที่เราก้าวต่อไปในปี 2025 การติดตามข่าวสารและปรับตัวได้อย่างยืดหยุ่นจะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับกระแสเศรษฐกิจในยุคนี้
หากคุณชอบบทความนี้ อาจสนใจอ่านบทความอื่น ๆ ของเราด้วยเช่นกัน:
Top 5 Blogs