CFDs are complex instruments and come with a high risk of losing money rapidly due to leverage. 61% of retail investor accounts lose money when trading CFDs with this provider.

You should consider whether you understand how CFDs work and whether you can afford to take the high risk of losing your money.

Please be advised that our Client Portal is scheduled for essential maintenance this weekend from market close on Friday 5th April, 2024, and should be back up and running before markets open on Sunday 7th April, 2024.

เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าเรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดต Client Portal เพื่อมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของคุณกับเรา
Client Portal จะไม่พร้อมให้คุณใช้งานตั้งแต่ตลาดปิดใน วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 และควรสำรองข้อมูลและทำงานก่อนตลาดเปิดให้บริการใน วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567

CFDs are complex instruments and come with a high risk of losing money rapidly due to leverage. 61% of retail investor accounts lose money when trading CFDs with this provider.

You should consider whether you understand how CFDs work and whether you can afford to take the high risk of losing your money.

Search
Close this search box.

8 กลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสําหรับปี 2024

ค้นพบ 8 กลยุทธ์การเทรดที่ทุกเทรดเดอร์ควรรู้: การเทรดแบบสวิง (Swing Trading), การเทรดแบบระยะยาว (Position Trading), การเทรดรายวัน (Day Trading), การเทรดตามการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action Trading), การเทรดแบบอัลกอริทึม (Algorithmic Trading), การเทรดตามข่าว (News Trading) เป็นต้น
Businessman holding tablet analyzing sales data and economic growth graph chart, Business strategy and planning

อัปเดตเมื่อกรกฎาคม 2024 โดย Sharon Lewis

เราสามารถพูดได้ว่ากลยุทธ์การเทรดนั้นมีมากมายพอๆกับเทรดเดอร์ เทรดเดอร์แต่ละคนนั้นต่างก็มีแนวทางและคุณสมบัติที่เฉพาะตัวของตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ก็มีบางกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยมมานานหลายทศวรรษ เป็นวิธีการที่ผ่านการทดลองและทดสอบอย่างเป็นขั้นตอนที่ยังคงใช้โดยเทรดเดอร์ทั่วโลก มาพบการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเทรดที่แตกต่างตามเฉพาะบุคคลและค้นหากลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสําหรับคุณ

ในคู่มือ เราจะกล่าวถึงหัวข้อดังต่อไปนี้:

    Add a header to begin generating the table of contents

    กลยุทธ์การเทรด คืออะไร

    กลยุทธ์การเทรดเป็นระบบที่ใช้โดยเทรดเดอร์เพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างรอบคอบในตลาดการเงิน พวกเขาปฎิบัติอย่างเป็นขั้นตอนทีละขั้น เพื่อช่วยให้พวกเขาเหล่าเทรดเดอร์สามารถจับโอกาสท่ามกลางความผันผวนในตลาดและจัดการความเสี่ยงของพวกเขา

    กลยุทธ์การเทรดอาจเป็นระยะสั้นหรือระยะยาวขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของการเทรด

    ด้วยกลยุทธ์การเทรด เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจเมื่อซื้อและขาย ดูปริมาณการซื้อ-ขายในขณะนั้น และเรียนรู้วิธีการป้องกันเงินทุนตัวเองจากการสูญเสียขนาดใหญ่

    1. การเทรดแบบถือครองระยะยาว (Position Trading)

    คือการซื้อ-ขายในตำแหน่งที่สอดคล้องกับแนวโน้มหลัก ในระยะเวลาสั้นถึงระยะกลาง โดยปกติจะถูกกําหนดในกรอบเวลาของกราฟประจําวัน

    แม้ว่าจะมีวิธีการและแนวทางที่หลากหลาย แต่หลักการสำคัญคือการถือ Position เป็นระยะเวลาหลักหลายวันหรือหลายสัปดาห์ กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากความเคลื่อนไหวและแนวโน้มของสินทรัพย์หลักในตลาด

    อดีของการซื้อ-ขาย แบบ Position Trading

    • การซื้อขายแบบ Position Trading ไม่ต้องการความสนใจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความเครียดน้อยกว่า เมื่อเทียบกับกลยุทธ์การเทรดแบบระยะสั้น
    • เป็นการมุ่งเน้นไปที่ภาพที่ใหญ่ เทรดเดอร์สามารถจับแนวโน้มสินทรัพย์หลักในตลาดได้ดีและมีศักยภาพที่จะได้ทำผลกําไร
    • การซื้อขายแบบ Position Trading ไม่ถูกรบกวนของความผันผวนในตลาดทุกวันซึ่งสามารถช่วยให้พวกเขาตัดสินใจอย่างสงบรอบคอบ

    ข้อเสียของการซื้อ-ขาย แบบ Position Trading

    • อาจใช้เวลานานที่จะเห็นผลการซื้อ-ขายในแต่ละครั้ง และการซื้อ-ขายที่ใช้ระยะเวลานานอาจไม่เหมาะสําหรับทุกคน
    • การเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นที่มองไม่เห็นในกราฟประจําวันอาจส่งผลกระทบต่อ Position การซื้อ-ขายของเทรดเดอร์โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว
    • Position trading อาจทำให้ยึดติดหรือติดภาพกับการเทรดผิดพลาดหรือสูญเสียได้ หาก Trend หรือแนวโน้มหลักขัดกับความเห็นของคุณ ซึ่งอาจนําไปสู่การสูญเสียที่ใหญ่กว่า
    Swing and Position Trading

    2. การเทรดแบบแกว่ง (Swing Trading)

    การซื้อ-ขายแบบ Swing Trade นั้นเหมือนกับการซื้อขายแบบ Position trading แต่เทรดเดอร์จะมองหาการเคลื่อนที่ของราคาในทั้งสองทิศทาง ภายในแนวโน้มหลัก การเทรดแบบ Swing trading มักจะทําในระยะสั้น แทนที่จะเป็นระยะกลางหรือระยะยาว  

    โดยปกติทั่วไปนักเทรดแบบ Swing trading จะมองภาพรวมและถือออเดอร์ในตลาดเป็นระยะเวลาสองสามวัน หรือเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เทรดเดอร์แบบ Swing trading มักใช้กลยุทธ์การซื้อขาย ด้วยแนวโน้มหลัก , การเทรดแบบ counter-trend , Momentum , หรือ Breakout 

    ข้อดีของการเทรดแบบ Swing trading:  

    • ตั้งอยู่ระหว่างการซื้อขายในระยะสั้นและระยะยาว การซื้อขายแบบ Swing tradingช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวของราคาในเวลาไม่กี่วันถึงสัปดาห์  
    • สามารถมุ่งเป้าไปที่การจับการเคลื่อนไหวของราคาภายในแนวโน้มหลัก เทรดเดอร์สามารถได้รับประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของตลาดทั้งขึ้นและลง 
    • การซื้อขายแบบ Swing trading ไม่ต้องการความสนใจหรือจดจ่ออย่างต่อเนื่องในการซื้อขายในรายวัน สิ่งนี้ช่วยลดความกดดันให้กับเทรดเดอร์ ทําให้เข้าถึงได้มากขึ้นสําหรับผู้ที่มีงานเต็มเวลาหรือภาระผูกพันอื่น ๆ  

    ข้อเสียของการเทรดแบบ Swing trading: 

    • การถือออเดอร์เป็นเวลาหลายวันทําให้เทรดเดอร์ต้องเผชิญกับการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดข้ามคืนและช่องว่างของราคาซึ่งอาจนําไปสู่การสูญเสียที่ไม่อาจคาดเดาได้ 
    • การเทรดแบบ Swing trading อาจมีการรับมือไม่สอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของราคาในระยะสั้น ซึ่งการเคลื่อนที่ของราคาที่รวดเร็วของตลาดที่เกิดขึ้นภายในช่วงเวลาที่พวกเขาเลือก 
    • นักเทรดแบบ Swing trading อาจพบว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์และปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในอารมณ์ของตลาดหรือเหตุการณ์ข่าวที่ไม่คาดคิดที่สามารถทําลายการซื้อขายและกลยุทธ์ที่วางแผนไว้ของพวกเขา 

    3. การเทรดแบบรายวัน (Day Trading)

    การเทรดภายในวัน คือการเปิดและปิด Position การซื้อ-ขายในวันเดียวกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ซื้อขายวันจะทําการซื้อ-ขายเพียงครั้งเดียวต่อวัน

    หัวใจหลักของการเทรดแบบรายวัน คือความเรียบง่ายโดยที่พวกเขาต้องปิดตําแหน่งการซื้อ-ขายทั้งหมดก่อนที่จะจบวันทําการซื้อขาย เทรดเดอร์รายวันมักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสําคัญโดยใช้ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคเช่น RSI (Relative Strength Index), MACD (Moving Average Convergence Divergence) และ Stochastic Oscillator เพื่อช่วยระบุสภาพตลาดและช่วยในการตัดสินใจการซื้อขาย

    ข้อดีของการเทรดแบบรายวัน:

    • การซื้อ-ขายภายในวัน มุ่งเป้าไปที่การใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวในราคาในระยะสั้นภายในหนึ่งวันโดยมีโอกาสที่จะได้ผลกําไรได้รวดเร็ว
    • การซื้อ-ขายภายในวัน ช่วยกําจัดความเสี่ยงของความผันผวนในตลาด ในเวลากลางคืนหรือเหตุการณ์ข่าวที่ไม่คาดคิด ที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อ-ขายของพวกเขา
    • การซื้อ-ขายภายในวัน ไม่ผูกมัดต่อเงินทุนเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ทําให้เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงเงินทุนของพวกเขาในตอนจบของวันซื้อ-ขายแต่ละวัน นี่อาจเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจสําหรับผู้ที่ชอบความมีสภาพคล่อง

    ข้อเสียของการเทรดแบบรายวัน:

    • ธรรมชาติของการซื้อ-ขายแบบรายวันที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเรื่องท้าทายจิตใจและอารมณ์สําหรับเทรดเดอร์และเทรดเดอร์รายใหม่อาจมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจแบบหุนหันพลันแล่น
    • การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นอาจได้รับอิทธิพลจากความผันผวน ทำให้เกิดความท้าทายในการแยกแยะระหว่างแนวโน้มที่สำคัญและการเคลื่อนไหวของตลาดชั่วคราว
    • การซื้อและขายบ่อยๆ ภายในวัน อาจนําไปสู่ค่าใช้จ่ายในการทําธุรกรรมที่สูงขึ้น รวมถึงค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียม

    4. การเทรดตามพฤติกรรมราคา (Price Action Trading)

    Price Action Trading

    การเทรดด้วย Price action  นั้นเรียบง่ายซึ่งเป็นการซื้อ-ขาย ผ่านการเคลื่อนไหวของราคา การเปลี่ยนแปลงของราคาในกรอบเวลาที่ต่างกัน เทรดเดอร์ Price Action ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงราคาเหล่านี้สร้างแนวโน้มราคาหรือรูปแบบราคาอย่างไร จากนั้นจึงเทรดตาม Price Action

    ขั้นแรก จำเป็นต้องตัดสินใจเกี่ยวกับกรอบเวลาที่คุณต้องการซื้อ-ขาย จากนั้นจึงระบุกลยุทธ์การซื้อขายแบบ Price Action คุณจะใช้ เทรดเดอร์ Price Action มองหาการเคลื่อนไหวของราคาที่โดดเด่นในกรอบเวลาของตน รับรู้แนวโน้มหรือรูปแบบที่โดดเด่น จากนั้นเข้าสู่การซื้อขายในทิศทางของสัญญาณการเคลื่อนไหวของราคา 

    ข้อดีของการเทรดด้วย Price action:  

    • การเทรดด้วย Price action ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตัวบ่งชี้หรือเครื่องมือที่ซับซ้อน 
    • เทรดเดอร์ Price action จะศึกษารูปแบบ แนวโน้ม และการก่อตัวของแท่งเทียนเพื่อทำความเข้าใจจิตวิทยาและความเชื่อมั่นของตลาด ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต 
    • หลักการของ Price action สามารถนำไปใช้กับหลากหลายตลาดและกรอบเวลาต่างๆ ได้ ทำให้มีความหลากหลายสำหรับเทรดเดอร์ที่สนใจหุ้น ฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ และอื่นๆ 

    ข้อเสียของการเทรดด้วย Price action: 

    • การวิเคราะห์รูปแบบ Price action pattern ของเทรดเดอร์อาจต่างออกไปในแต่ละคน เนื่องจากเทรดเดอร์แต่ละรายอาจตีความกราฟเดียวกันต่างกันออกไป 
    • การทำความเข้าใจรูปแบบ Price action pattern และ Trend อย่างมีประสิทธิภาพมักต้องใช้ประสบการณ์และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด 
    • รูปแบบ Price action pattern ไม่ใช่ตัวบ่งชี้หรือทำให้เข้าใจผิดได้ และบางครั้งสามารถสร้างสัญญาณที่ผิดพลาด ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจซื้อขายที่ไม่ถูกต้อง  

    5. การเทรดแบบอัลกอริทึม (Algorithmic Trading)

    Algorithmic Trading หรือการซื้อ-ขายด้วย Algo เป็นกลยุทธ์ที่กําหนดชุดคําสั่งและป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ เป็นกระบวนการอัตโนมัติที่ใช้ข้อมูลเช่นราคาเวลาและปริมาณการซื้อขายรวมถึงสูตรที่ซับซ้อนและโมเดลทางคณิตศาสตร์

    การซื้อขายอัลกอริทึมใช้กลยุทธ์ตามกฎซึ่งการกําหนดกฎเป็นส่วนสําคัญ วัตถุประสงค์คือการผลิตสัญญาณที่จะซื้อหรือขายเมื่อไหร่และในราคาใดที่จะเข้าไปเทรด และทํากําไรเมื่อไหร่หรือวางจุด Stop-loss เมื่อใด

    ซึ่งกฎเหล่านี้จะถูกปรับปรุงโดยเทรดเดอร์

    ข้อดีของการเทรดด้วย Algo:

    • อัลกอริธึมดำเนินการซื้อขายด้วยความเร็วและ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดในหน่วยมิลลิวินาที ด้วยความเร็วนี้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสระยะสั้นและดำเนินการคำสั่งซื้อจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการซื้อขายด้วยตนเอง
    • การซื้อขาย Algo ขจัดอคติทางอารมณ์ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของมนุษย์ ซึ่งจะเป็นไปตามกฎและกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ป้องกันการซื้อขายด้วยความรู้สึกหรือแรงกระตุ้น
    • สามารถทดสอบอัลกอริทึมโดยใช้ข้อมูลในอดีตเพื่อประเมินประสิทธิภาพ ภายใต้เงื่อนไขตลาดที่แตกต่างกัน นี่ช่วยให้เทรดเดอร์ปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ก่อนที่จะใช้พวกเขาในตลาดจริง

    ข้อเสียของการเทรดด้วย Algo:

    • การพัฒนา , การใช้งาน , และการบํารุงรักษาระบบการเทรดอัลกอริทึมต้องอาศัยทักษะและความรู้ด้านเทคนิคขั้นสูง
    • อัลกอริทึมมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อบกพร่องทางเทคนิคข้อผิดพลาดและปัญหาการเชื่อมต่อที่อาจนําไปสู่การเทรดที่ไม่ตั้งใจ ถ้าไม่ถูกตรวจสอบและจัดการอย่างเพียงพอ
    • อัลกอริธึมอาจมีความยากลำบากเพื่อการปรับให้เข้ากับเหตุการณ์ข่าวที่ไม่คาดคิดหรือการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่รุนแรง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียที่ไม่คาดคิด

    6. การเทรดข่าว (News Trading)

    การซื้อ-ขายตามข่าวอาศัยเหตุการณ์พื้นฐานที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน ซึ่งอาจเป็นกิจกรรมขององค์กร เช่น รายงานของรายได้ หรือเหตุการณ์พื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาค ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาด

    เทรดเดอร์สายข่าวจะมองหาเพื่อระบุเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่หรือกิจกรรมขององค์กรที่กำหนดไว้ เช่น ข้อมูลเศรษฐกิจหรือการเปิดเผยรายได้

    จากนั้นพวกเขาจะวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์เหล่านี้ ผลที่ตามมาจากการซื้อ-ขายที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นกำหนดกลยุทธ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ เทรดเดอร์สายข่าวยังพยายามใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาด เช่นจากข่าวด่วน

    จุดมุ่งหมายคือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคา , ก่อน , ระหว่าง หรือหลังเหตุการณ์ข่าว

    ข้อดีของการเทรดข่าว:

    • เหตุการณ์ข่าวใหญ่สามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมากสร้างโอกาสสําหรับผลกําไรที่สําคัญในระยะเวลาสั้น ๆ
    • นักเทรดข่าวมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นซึ่งทําให้พวกเขาสามารถมุ่งหน้าไปที่ปัจจัยที่กําหนดมากกว่าตลาดในวงกว้าง
    • นักเทรดข่าวเจริญเติบโตในตลาดที่มีความผันผวน ซึ่งราคาที่มีความผันผวนกะทันหันนี้สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว

    ข้อเสียของการเทรดข่าว:

    • การเทรดข่าวมีความเสี่ยงอย่างมากเนื่องจากลักษณะที่ไม่อาจคาดเดาได้ของปฏิกิริยาในตลาดต่อเหตุการณ์ข่าว
    • ตลาดอาจตอบสนองต่อข่าวอย่างไม่แน่นอน โดยราคาจะแกว่งไปมาก่อนที่จะตกลงไปในอีกทิศทางหนึ่ง สิ่งนี้สามารถนำไปสู่สัญญาณที่ผิดพลาดสำหรับเทรดเดอร์
    • การดำเนินการซื้อขายในช่วงเวลาของการประกาศข่าวอาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างรวดเร็ว ความล่าช้าในการดำเนินการอาจส่งผลให้พลาดโอกาสหรือการซื้อ-ขายที่ไม่เอื้ออำนวย

    7. การเทรดด้วย Trend (Trend Trading)

    การเทรดด้วย Trend คือกลยุทธ์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อคว้าโอกาสของตลาดโดยการระบุและปฏิบัติตามทิศทางของตลาด เทรดเดอร์พยายามที่จะเข้าซื้อ-ขายในทิศทางของ Trend และถือไว้จนกว่า Trend จะแสดงสัญญาณการกลับตัว

    วิธีการนี้อาศัยหลักการที่ว่าตลาดมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวใน Trend ที่ระบุได้ มากกว่ารูปแบบแบบสุ่ม นักเทรดด้วย Trend ใช้เครื่องมือและตัวบ่งชี้ต่างๆ เพื่อยืนยันทิศทางและความแข็งแกร่งของเทรนด์ เช่น เส้น MA , Trend Line, Average Directional Index (ADX)

    นักเทรดตามเทรนด์มุ่งเน้นไปที่จุดสูงและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น และจุดสูงสุดที่ลดลงและจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าในแนวโน้มขาลง ในขณะที่จุดเข้าออเดอร์มักจะเป็น pullbacks หรือ Breakouts

    ข้อดีของการเทรดด้วย Trend Line:

    • จุดเข้าและออกจะขึ้นอยู่กับสัญญาณต่อเนื่องของแนวโน้มหรือสัญญาณกลับตัว ซึ่งสามารถทําให้การตัดสินใจง่ายขึ้น
    • การซื้อ-ขายตามเทรนด์มักจะเป็นไปตามระบบที่อิงกฎเกณฑ์ ทำให้ง่ายต่อการจัดการอารมณ์และปฏิบัติตามแผนการซื้อ-ขาย
    • ด้วยการมุ่งเน้นไปที่ทิศทางของตลาดในวงกว้าง การซื้อ-ขายตามแนวโน้มสามารถช่วยลดสัญญาณรบกวนของตลาดได้โดยการกรองความผันผวนในระยะสั้นออกไปป

    ข้อเสียของการเทรดด้วย Trend Line:

    • เครื่องมือเช่นเส้นค่าเฉลี่ย MA อาจทำให้เกิดการเข้าและออกล่าช้า และอาจสูญเสียข้อมูลบางส่วนของการเคลื่อนไหวของราคา
    • ในตลาดที่เปลี่ยนแปลง การเทรดอาจเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนําไปสู่ความเสี่ยงของการสูญเสีย
    • การซื้อขายตาม Trend อาจมีประสิทธิภาพน้อยลงในตลาดที่มีความหลากหลายหรือตลาดที่มี Trend เป็น Sideways ซึ่งแนวโน้มไม่ได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน

    8. การเทรดในกรอบราคา (Range Trading)

    การเทรดด้วยวิธี Range Trading เป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์ระบุการซื้อขายหลักทรัพย์ระหว่างสองราคา ซึ่งเรียกว่าระดับแนวรับและแนวต้าน กลยุทธ์เกี่ยวข้องกับการซื้อที่ระดับแนวรับ (ล่างสุดของช่วง) และการขายที่ระดับแนวต้าน (บนสุดของช่วง)

    วิธีนี้จะอนุมานได้ว่าราคาจะยังคงต่อเนื่องในระหว่างระดับที่กำหนดไว้จนกว่าจะเกิดการทะลุกรอบ เทรดเดอร์แบบ Range Trading จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดที่ไม่มีแนวโน้มระยะยาวที่ชัดเจนและเคลื่อนไหวภายในขอบเขต

    เครื่องมือสำคัญ ได้แก่ oscillators เช่น RSI และ Stochastic ซึ่งช่วยระบุสภาวะการซื้อเกินและการขายเกินภายในช่วง เทรดเดอร์ตามระยะยังจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของปริมาณและสัญญาณอื่น ๆ ของ Breakouts ที่อาจเกิดขึ้น

    ข้อดีของการเทรด Range Trading:

    • ตลาด Range-bound จะมีโอกาสในการซื้อ-ขายที่หลากหลายเนื่องจากราคามีการผันผวนภายในช่วงดังกล่าว
    • แนวรับและแนวต้าน สามารถทําให้จุดเข้าและจุดออก ถูกกําหนดอย่างชัดเจน
    • การซื้อ-ขายแบบ Range Trading จะมีประโยชน์ในตลาดที่ไม่มีแนวโน้ม ซึ่งกลยุทธ์อื่นอาจมีโอกาสล้มเหลวสูงกว่า

    ข้อเสียของการเทรด Range Trading:

    • ผลกำไรจะถูกจำกัดตามขอบเขตของช่วง ซึ่งแตกต่างจากการซื้อขายตามแนวโน้มที่กำไรอาจมากกว่า
    • เทรดเดอร์จำเป็นต้องจับตาดูตลาดบ่อยครั้งเพื่อระบุช่วงและจุด Breakouts
    • ราคาอาจทะลุออกจากช่วงโดยไม่คาดคิดหรือสร้างสัญญาณที่ผิดพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ผันผวนซึ่งราคาพุ่งสูงขึ้น

    สรุปกลยุทธ์การเทรด

    ประเภทกลยุทธ์การเทรด ช่วงเวลา ระยะเวลาการซื้อขาย
    การเทรดแบบถือครองระยะยาว (Position Trading) ระยะสั้นถึงระยะกลาง วัน , สัปดาห์
    การเทรดแบบแกว่ง (Swing Trading) ระยะสั้นถึงระยะกลาง วัน , สัปดาห์
    การเทรดแบบรายวัน (Day Trading) ระยะสั้น นาที, ชั่วโมง
    การเทรดตามพฤติกรรมราคา (Price Action Trading) ระยะสั้นถึงระยะกลาง นาที, ชั่วโมง, วัน, สัปดาห์
    การเทรดแบบอัลกอริทึม (Algorithmic Trading) ระยะสั้นมาก (ส่วนใหญ่) วินาที , นาที
    การเทรดข่าว (News Trading) ระยะสั้น วินาที , นาที ,ชั่วโมง
    การเทรดด้วย Trend (Trend Trading) ระยะกลางถึงระยะยาว สัปดาห์ , เดือน
    การเทรดในกรอบราคา (Range Trading) ระยะสั้นถึงระยะกลาง วัน , สัปดาห์

    กลยุทธ์การเทรดที่ดีที่สุดสําหรับคุณคืออะไร?

    มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณาในการตัดสินใจเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับคุณที่สุด โดยมีรายการดังนี้:

    • สภาพจิตใจและลักษณะนิสัยของคุณ
    • ความตั้งใจและเป้าหมายในการเทรดของคุณ
    • เวลาที่คุณสามารถทุ่มให้กับการเทรด
    • อะไรที่ “รู้สึก” ว่าใช่

    สภาพจิตใจและลักษณะนิสัยของคุณ: นอกจากสังเกตสิ่งที่คุณทำจะเป็นประโยชน์แล้ว การสังเกตสิ่งที่คุณไม่ทำก่อนการเทรดก็สำคัญพอๆ กัน ทั้งในด้านจิตใจและลักษณะส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเช่น หากคุณไม่มีทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์ การเทรดตามชุดคำสั่งก็ไม่เหมาะกับคุณ ถ้าคุณมีทักษะการวิเคราะห์สูงการเทรดตามข่าวสารอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ หากคุณสามารถดูกราฟและตัดสินใจได้อย่างสบายๆ คุณอาจจะเหมาะกับการเทรดแบบสวิง ถือตำแหน่ง หรือแม้แต่การเทรดแบบรายวัน

    เป้าหมายการเทรดของคุณคืออะไร ลองถามตัวเองดู คุณตั้งใจจะเทรดเต็มเวลาและให้การเทรดเป็นรายได้หลักเลยหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ คุณอาจต้องลองศึกษาการเทรดระยะสั้นเช่นการเทรดแบบรายวัน แต่ถ้าคุณมองหารายได้เสริม การเทรดแบบสวิงหรือถือตำแหน่งอาจเหมาะกับคุณมากกว่า

    คุณมีเวลาเทรดมากแค่ไหน ถ้าคุณไม่สามารถติดตามตลาดหุ้นได้อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน คุณก็ไม่สามารถใช้การเทรดแบบรายวันได้ ถ้าคุณมีเวลาวิเคราะห์ตลาดและซื้อหุ้นอย่างจำกัดในแต่ละวัน การเทรดแบบถือตำแหน่งหรือสวิงอาจเหมาะกับคุณมากกว่า

    อะไรที่คุณ “รู้สึก” ว่าใช่ ลองใช้กลยุทธ์การเทรดแบบต่างๆ ด้วยบัญชีจำลองเพื่อหาว่าวิธีการแบบไหนเหมาะกับคุณและกลยุทธ์แบบไหนที่ได้กำไร

    แพลตฟอร์มสําหรับกลยุทธ์การซื้อ-ขายที่แตกต่างกัน

    หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มใช้กลยุทธ์การซื้อ-ขายต่าง ๆ เหล่านี้ได้อย่างไร หรือต้องการทดสอบระบบเทรดใหม่ๆ คุณสามารถทําได้ในบัญชีทดลองโดยไม่มีความเสี่ยงกับเงินทุนของคุณ

    บัญชีทดลองเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทดลองกลยุทธ์ใหม่ในสภาพตลาดจริงและดูว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไรโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนจริง คุณยังสามารถฝึกในบัญชีทดลอง จนกว่าคุณจะได้รับความมั่นใจในความสามารถในการซื้อ-ขายทุนของคุณในสภาพตลาดจริง

    ด้วย Hantec Markets คุณสามารถลงชื่อสมัครใช้บัญชีทดลองและเข้าถึง MetaTrader4® และ Metatrader 5® เพื่อให้ได้ประสบการณ์การซื้อขายที่สมบูรณ์แบบพร้อมกับเครื่องมือที่เหมาะสม
    ต้องการที่จะไปซื้อ-ขายโดยตรง? เปิดบัญชี Hantec Markets ในไม่กี่นาทีและเริ่มเทรด!

    คุณยังสามารถอ่านเกี่ยวกับการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของเทรดเดอร์ทั่วไปและวิธีการสร้างแผนการเทรดที่ประสบความสําเร็จ

    ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหาของบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ใช่คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะในการซื้อขายในทุกรูปแบบ

    ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหาของบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ใช่คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะในการซื้อขายในทุกรูปแบบ

    พร้อมที่จะ เริ่มซื้อขาย แล้วหรือยัง?
    โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
    Biggest Non-US companies by Market Capitalisation 2024
    คู่มือการซื้อขาย
    บริษัทที่ใหญ่ที่สุดที่ไม่ใช่ของสหรัฐอเมริกาตามมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (2024)

    บทความนี้จะพิจารณา 10 บริษัทชั้นนำที่ไม่ใช่ของสหรัฐฯ เช่น Saudi Aramco, TSMC, Novo Nordisk, Tencent, LVMH, ASML, Samsung, Nestlé, ICBC และ SAP

    eyes of famous leader on banknotes, currencies of the global economies - compressed
    คู่มือการซื้อขาย
    การรับมือกับเศรษฐกิจโลก: คู่มือสำหรับเทรดเดอร์ สู่เศรษฐกิจชั้นนำตามตัวเลข GDP ประจำปี 2024

    ความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่สำคัญมีความสำคัญต่อการประสบความสำเร็จในการซื้อขาย บทความนี้จะกล่าวถึง 10 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกโดยพิจารณาจาก GDP

    Boom and CRASH message word on a wooden desk
    คู่มือการซื้อขาย
    โลดแล่นอย่างโลดโผน: คำแนะนำเกี่ยวกับการเทรดดัชนี Boom and Crash

    ค้นพบโลกแห่งการเทรดดัชนี Boom และ Crash ที่สุดแสนเร้าใจ ท่องตลาดที่ผันผวนอย่างช่ำชองด้วยกลยุทธ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการใช้ประโยชน์จากราคาที่พุ่งขึ้นและดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

    Financial and business abstract background - Bullish and bearish concept
    คู่มือการซื้อขาย
    เรียนรู้ตลาดกระทิงและตลาดหมีในการเทรดฟอเร็กซ์: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    ในบทความนี้ เราจะพาคุณไป khám โลกอันน่าตื่นเต้นของตลาดกระทิงและตลาดหมี ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดมืออาชีพหรือเพิ่งเริ่มต้น การทำความเข้าใจพฤติกรรมของตลาดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จ ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลย!

    สมัครสมาชิกบล็อกของเรา
    สำหรับข่าวสารล่าสุดและแหล่งข้อมูลการซื้อขาย โปรดส่งตรงไปที่กล่องจดหมายของคุณ

    Popup title

    Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

    Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

    Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

     

    rotator.png

    เรากำลังพาท่านไปสู่ Hantec Trader ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเรา

    โปรดทราบว่า Hantec Trader ไม่รองรับลูกค้าจากสหรัฐอเมริกาหรือประเทศที่ถูกจำกัดอื่นๆ