ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่เทรดเดอร์ ซึ่งจะใช้สำหรับการจัดหาข่าวสารเกี่ยวกับข้อมูลและการเผยแพร่ที่จะเกิดขึ้นที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาด
ในบทความนี้ เราจะพูดถึง:
ปฏิทินเศรษฐกิจเป็นกำหนดการของเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนตลาด เหตุการณ์เหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดการเงินต่างๆ เช่น หุ้น ฟอเร็กซ์ หรือสินค้าโภคภัณฑ์
ปฏิทินเศรษฐกิจให้ข้อมูลที่สำคัญว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด เกี่ยวข้องกับอะไร และอาจส่งผลต่อราคาสินทรัพย์อย่างไร
โดยทั่วไปปฏิทินเศรษฐกิจจะให้ข้อมูลต่อไปนี้ แม้ว่าบางปฏิทินอาจมีองค์ประกอบอื่นๆ เพิ่มเติม
ลองพิจารณาเหตุการณ์ในปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐ สำหรับรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร:
ในตัวอย่างนี้ ค่าที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าค่าที่คาดการณ์ไว้ หมายความว่าความเป็นจริงแย่กว่าที่คาดไว้
คุณสามารถดูเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่ปฏิทินเศรษฐกิจของ Hantec Markets
ปฏิทินเศรษฐกิจให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่เทรดเดอร์ และสามารถเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ได้ด้วยเหตุผลหลายประการ:
ปฏิทินเศรษฐกิจแสดงเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น เช่น:
แม้ว่าปฏิทินเศรษฐกิจสามารถแสดงรายการเหตุการณ์ได้มากมาย แต่บางเหตุการณ์ก็ส่งผลกระทบมากกว่าเหตุการณ์อื่นๆ
เหตุการณ์เหล่านี้ได้รับความสนใจอย่างมากทั่วโลก และเทรดเดอร์จะมองหาโอกาสท่ามกลางความผันผวนในตลาดหรือทำการป้องกันความเสี่ยง
เหตุการณ์ที่มีการจับตามองอย่างใกล้ชิดบางส่วน ได้แก่:
ตอนนี้เราได้เข้าใจแล้วว่าปฏิทินเศรษฐกิจคืออะไรและต้องอ่านอย่างไร เราก็จะมาเจาะลึกว่าเทรดเดอร์สามารถใช้เครื่องมือนี้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร:
วางแผนกิจกรรมการเทรดของคุณตามเหตุการณ์สำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดของตลาด ตัวอย่างเช่น ผู้เทรดฟอเร็กซ์บางรายอาจหลีกเลี่ยงคู่เงินหลักในระหว่างการประกาศอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ขณะที่เทรดเดอร์บางรายอาจเก็งว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างไร
ให้ความสำคัญกับค่าที่คาดการณ์ไว้ในปฏิทิน ตัวเลขนี้แสดงถึงฉันทามติของตลาดและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หากข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเบี่ยงเบนไปจาค่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมีนัยสำคัญ ก็อาจเป็นการกระตุ้นให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความผันผวนในตลาด
เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจถูกเปิดเผย ให้ติดตามดูว่าตลาดมีปฏิกิริยาอย่างไร หากค่าที่เกิดขึ้นจริงสอดคล้องกับหรือเกินความคาดหมาย ก็อาจนำไปสู่ความเชื่อมั่นของตลาดกระทิง (ขาขึ้น) ในทางกลับกัน ข้อมูลที่น่าผิดหวังอาจส่งผลให้เกิดตลาดหมี (ขาลง)
รวมข้อมูลจากปฏิทินเศรษฐกิจเข้ากับกลยุทธ์การเทรดของคุณ ตัวอย่างเช่น ผู้เทรดจากการสวิงอาจหลีกเลี่ยงการเปิดสถานะใหม่ก่อนเกิดเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของตลาด
ปฏิทินเศรษฐกิจยังช่วยในเรื่องกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและการป้องกันความเสี่ยงอีกด้วย หากคุณเทรดในพอร์ตหุ้น ให้พิจารณาว่าเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอาจส่งผลต่อการถือครองแต่ละรายการอย่างไร การกระจายสินทรัพย์ให้หลากหลายโดยมีความอ่อนไหวต่อข้อมูลทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
ตลาดการเงินเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับทราบข้อมูลโดยการตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ และเตรียมพร้อมที่จะปรับกลยุทธ์การเทรดเมื่อจำเป็น
ถาม: ปฏิทินเศรษฐกิจมีข่าวสารและข้อมูลอะไรบ้าง?
ตอบ: ปฏิทินเศรษฐกิจมีกำหนดการของเหตุการณ์ที่ขับเคลื่อนตลาดที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจ ประกาศจากธนาคารกลาง รายงานผลประกอบการ และเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์
ถาม: จะใช้ปฏิทินเศรษฐกิจสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ได้อย่างไร?
ตอบ: สำหรับการเทรดฟอเร็กซ์ ให้โฟกัสไปที่เหตุการณ์ต่างๆ เช่น การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย การจ้างงานนอกภาคการเกษตร และการเผยแพร่ข้อมูลที่เจาะจงสกุลเงิน ปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของตลาดที่คาดการณ์ไว้หลังจากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้
ถาม: ฉันจะหาปฏิทินเศรษฐกิจได้จากที่ไหน?
ตอบ: เข้าไปที่ปฏิทินเศรษฐกิจของ Hantec Markets เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
ถาม: ปฏิทินเศรษฐกิจมีความแม่นยำในด้านการคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาดมากแค่ไหน?
ตอบ: ปฏิทินเศรษฐกิจให้ข้อมูลอันมีค่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นและการคาดการณ์ของตลาด แต่ก็ไม่ได้รับประกันความถูกต้องแม่นยำในด้านปฏิกิริยาของตลาด
ถาม: ฉันควรตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจบ่อยแค่ไหน?
ตอบ: ความถี่ในการตรวจสอบปฏิทินเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของคุณ หากคุณเป็นเดย์เทรดเดอร์หรือบริหารพอร์ตของคุณอยู่ตลอด คุณอาจจำเป็นต้องตรวจสอบรายวันหรือหลายครั้งต่อวัน ผู้เทรดจากการสวิงอาจรู้สึกว่าการตรวจสอบสัปดาห์ละครั้งนั้นเพียงพอแล้ว ขณะที่นักลงทุนระยะยาวอาจโฟกัสไปที่เหตุการณ์สำคัญและรายงานผลประกอบการ
Top 5 Blogs