นักวิเคราะห์ตลาดการเงินต้องมีแนวทางที่มั่นคงในการตัดสินใจในการซื้อขาย เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่มั่นคง ขณะที่คุณกำลังวางกลยุทธ์ สิ่งสำคัญก็คือความรู้ความเข้าใจหลักการวิเคราะห์ตลาด Forex สามประเภทหลัก ซึ่งก็คือ ทางเทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน และอารมณ์ตลาด การวิเคราะห์แต่ละแบบนั้นมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณจึงต้องเข้าใจทั้งสามอย่างเพื่อวิเคราะห์ตลาดได้อย่างครอบคลุม
การตัดสินใจว่าจะใช้การวิเคราะห์ประเภทใดทำการซื้อขายใน Forex นั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่ละวิธีมีข้อได้เปรียบและเสียเปรียบที่ไม่เหมือนกัน การวิเคราะห์ทางเทคนิคจะดูที่การเคลื่อนไหวของราคาในอดีตและคาดการณ์พฤติกรรมราคาในอนาคต
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะดูที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลต่อค่าเงิน การวิเคราะห์อารมณ์ตลาดจะดูที่ปัจจัยด้านจิตใจซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อขาย การวิเคราะห์ทั้งสามแบบนี้ควรนำมาใช้ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ในบทความนี้ เราได้ทำการสำรวจและวิเคราะห์แต่ละแบบอย่างละเอียด
สิ่งที่เราทำการศึกษา:
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
หากคุณเป็นมือใหม่ในโลกของการเทรด Forex คุณอาจจะได้ยินคำว่า “การวิเคราะห์ทางเทคนิค” อยู่บ่อยๆ แต่การวิเคราะห์ทางเทคนิคคืออะไร พูดกันง่ายๆ ก็คือเป็นวิธีประเมินการซื้ออขายของตลาดจากข้อมูลในอดีต โดยเน้นที่ราคาและปริมาณเป็นหลัก นักวิเคราะห์ทางเทคนิคเชื่อว่าพวกเขาสามารถระบุรูปแบบที่จะช่วยในการคาดการณ์พฤติกรรมของตลาดในอนาคตได้จากการดูข้อมูลในอดีต
โดยมีวิธีการมากมายที่ถือว่าเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ยกตัวอย่างดังนี้:
- แนวรับและแนวต้าน
- ทฤษฎีดาว
- แนวโน้มและเส้นแนวโน้ม
- กราฟแท่งเทียน
- จุดกลับตัวและฟีโบนัชชี
- การวิเคราะห์อีเลียต เวฟ
- เครื่องมือระบุราคา
- โมเมนตัม อินดิเคเตอร์และออสซิลเลเตอร์
จากการเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่แตกต่างกันนี้ คุณสามารถนำไปสร้างกลยุทธ์เพื่อระบุทิศทางตลาด รวมทั้งระบุจุดเข้าซื้อขาย ควบคู่ไปกับจุดตัดการลงทุนและเป้าหมายการทำกำไร คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากศูนย์เรียนรู้ของเรา
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเป็นวิธีการที่ใช้เพื่อประเมินสภาวะตลาด โดยดูปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเงินพื้นฐานที่อาจส่งผลต่อตลาด ในการเทรด Forex การวิเคราะห์แบบนี้สามารถใช้เพื่อตัดสินใจซื้อขายและป้องกันความเสี่ยงได้
นักเทรดที่ใช้วิธีการนี้มักจะดูข้อมูลเศรษฐกิจ ความเคลื่อนไหวธนาคารกลาง รายงานผลประกอบการ แนวโน้มของบริษัทและเหตุการณ์การเมืองโลกเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ถึงแม้จะมีวิธีการวิเคราะห์ตลาด Forex หลายรูปแบบ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานก็เป็นหนึ่งในวิธีการยอดนิยมในหมู่นักเทรด
เมื่อเทรด Forex นักเทรดที่ใช้วิธีการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานจะจับตาดูและวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้:
- การเคลื่อนไหวของธนาคารกลาง: ความเคลื่อนไหวนี้ประกอบด้วยการรายงานจากงานแถลงข่าวจากการประชุมของธนาคารกลาง ข้อมูลที่ถูกเผยแพร่จากรายงานการประชุมของธนาคารกลาง และโฆษกของธนาคารกลางรายใหญ่ ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับธนาคารกลางและนโยบายการเงิน
- ข้อมูลเศรษฐกิจ: การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจโดยเฉพาะจากประเทศที่มีเศรษฐกิจสำคัญอันดับ 1 และ 2 อาจส่งผลกระทบต่อสกุลเงินในเศรษฐกิจนั้นๆ ได้เป็นอย่างมาก สิ่งสำคัญก็คือการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาเพื่อประเมินโอกาสว่าข้อมูลนั้นจะมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าเทียบกับข้อมูลที่คาดการณ์ไว้หรือไม่
- ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย: หนึ่งในสิ่งที่ขับเคลื่อนมูลค่าคู่เงิน Forex ก็คือส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย รวมไปอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ
- เหตุการณ์การเมืองโลก: เหตุการณ์การเมืองโลกอย่างเช่นการเลือกตั้ง ภัยธรรมชาติ (เช่นแผ่นดินไหว พายุเฮอร์ริเคน) รวมไปถึงความขัดแย้งด้านการค้าและการทหาร ต่างก็ส่งผลต่อตลาด Forex ได้ การวิเคราะห์จากเหตุการณ์การเมืองโลกนั้นเป็นไปได้ แต่ก็ยากมากๆ และอาจเกิดความผิดพลาดระหว่างการวิเคราะห์ได้สูงมาก
การวิเคราะห์อารมณ์ตลาด
การวิเคราะห์ภาาวะอารมณ์ของตลาดเป็นวิธีการทางจิตวิทยาที่วัดอารมณ์ของผู้คนที่มีต่อบางสิ่ง การวิเคราะห์นี้สามารถใช้ได้กับวิเคราะห์ทุกประเภท รวมทั้งโซเชียลมีเดีย รีวิว บทความและอื่นๆ สามารถนำมาใช้เพื่อทำความเข้าใจสภาวะของตลาดโดยรวม ที่เป็นหนึ่งในศาสตร์การวิเคราะห์เชิงข้อมูลและการวิเคราะห์ทางอารมณ์ แนวทางและความคิดของผู้คน สามารถนำไปใช้เพื่อค้นหาว่ากลุ่มคนรู้สึกอย่างไร
นักเทรดในตลาดจำเป็นต้องเข้าใจว่าการวิเคราะห์สภาวะอารมณ์ของตลาดเป็นอย่างไรและจะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ยังไง จากการวิเคราะห์สภาวะอารมณ์ของตลาด คุณสามารถคาดการณ์ทิศทางตลาดในอนาคตและตัดสินใจโดยอาศัยข้อมูล ว่าจะเทรดตรงจุดไหนและเทรดเมื่อไหร่
อารมณ์ของตลาด Forex แสดงให้เห็นทัศนคติโดยรวมของเหล่านักเทรดมีต่อสกุลเงินนั้นๆ (อย่างเช่น ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์อังกฤษ)
เป็นการใช้จิตวิทยากลุ่มของตลาดสกุลเงิน ที่แสดงออกมาเป็นการเคลื่อนที่ของราคาในตลาด Forex
มีข้อมูลหลายอย่างที่วัดอารมณ์ตลาด Forex ได้ โดยมีตัวอย่างส่วนหนึ่งดังนี้:
- รายงานการถือครองสัญญาของนักเทรด (COT): รายงานนี้เผยแพร่โดยหน่วยงานกำกับการซื้อขายล่วงหน้าของสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาของสหรัฐฯ (CFTC) และการเปลี่ยนแปลงของปริมาณซื้อขายจากนักเก็งกำไรจำนวนมากในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของ Forex
- ข้อมูลสรุปการถือสถานะจากโบรกเกอร์: โบรกเกอร์ Forex หลายแห่งเผยแพร่เผยแพร่เปอร์เซ็นต์รวมการซื้อขายล่วงหน้าในแต่ละคู่สกุลเงิน
- สถานะคงค้างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของ Forex: ข้อมูลนี้ใช้วัดสถานะที่เปิดอยู่ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าของ Forex และสามารถวัดอารมณ์ตลาดในแต่ละสกุลเงินได้
วิธีการนำแนวทางเหล่านี้มาใช้ในการวิเคราะห์ของคุณ
นักเทรดบางคนชอบใช้การวิเคราะห์แค่แบบเดียว ซึ่งอาจจะเน้นไปที่การวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยตัดสินใจซื้อขายจากการดูกราฟเท่านั้น นักเทรดบางคนก็เน้นใช้ปัจจัยพื้นฐานของตลาดในการตัดสินใจซื้อขาย และบางคนก็วิเคราะห์จากสภาวะอารมณ์ของตลาดเป็นส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม มีนักเทรดหลายคนที่นำการวิเคราะห์รูปแบบต่างๆ มาใช้ร่วมกันเพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดที่สมบูรณ์แบบ หัวใจสำคัญก็คือหาวิธีการที่เหมาะสมกับคุณ และสามารถใช้ได้อย่างสมบูรณ์
สรุป
คุณสามารถเลือกรูปแบบการวิเคราะห์ที่ใช้กับการในเทรดได้ตามที่คุณชื่นชอบ เราแค่แนะนำวิธีวิเคราะห์หลักๆ ที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ตอนเทรด Forex เท่านั้น เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลการวิเคราะห์ที่แตกต่างกันนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด และที่สำคัญก็คือวิธีการวิเคราะห์ที่จะสร้างกำไรอย่างมั่นคงไปเรื่อยๆ ขอให้โชคดีกับการวิเคราะห์และการเทรดนะ!