Position Trading: แนวทางการเทรดระยะยาวแบบใจเย็น เพื่อค่อย ๆ เพิ่มพูนเงินของคุณ

📅 12.18.2025 👤 Syed Maaz Ashgar

บทนำ: เทรดโดยไม่ต้องเครียด

สำหรับมือใหม่จำนวนมาก ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเทรดไม่ใช่การขาดทุน—แต่คือ “แรงกดดัน” จากการรู้สึกว่าต้องติดหน้าจอทั้งวัน การแจ้งเตือนที่ดังไม่หยุด แท่งเทียนที่กระพริบไปมา และความกลัวว่าจะ “พลาดโอกาส” (FOMO) ทำให้การเทรดดูเหมือนงานประจำเต็มเวลา คนส่วนใหญ่ไม่ได้อยากจ้องหน้าจอตั้งแต่เช้าจรดค่ำ—พวกเขาแค่อยากได้วิธีที่สงบและไว้ใจได้ในการค่อย ๆ เพิ่มพูนเงินของตัวเอง

การเทรดแบบ Position Trading จึงเป็นทางเลือกที่ให้ความรู้สึกสดใหม่และผ่อนคลายกว่า แทนที่จะไล่ตามทุกการแกว่งของราคา กลยุทธ์นี้จะเน้นการมองหา “แนวโน้มใหญ่” ของตลาด และถือสถานะ (Position) ไว้เป็นเวลาหลายเดือน—หรือแม้กระทั่งหลายปี แทนที่จะตอบสนองกับทุกความผันผวนระยะสั้น นักเทรดสายนี้จะถอยออกมามองภาพรวม แล้วปล่อยให้แนวโน้มระยะยาวค่อย ๆ คลี่คลายอย่างเป็นธรรมชาติ

พูดง่าย ๆ คือ Position Trading เป็นแนวทางที่สงบ อดทน และให้เวลาเป็นตัวทำงานแทนคุณในหลายส่วน

แนวทางนี้มีความคล้ายกับการลงทุนระยะยาว แต่มี “จุดต่างสำคัญ” อยู่หนึ่งอย่าง: นักเทรดแบบ Position จะใช้เครื่องมือง่าย ๆ เช่น คำสั่ง Stop-Loss และการวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend Analysis) เพื่อบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ คุณแทบไม่ต้องใช้เวลามาก ความเครียดต่ำ และความสำเร็จขึ้นอยู่กับ “ความอดทน” มากกว่าการตัดสินใจที่รวดเร็ว

สำหรับมือใหม่ที่ต้องการวิธีเข้าสู่ตลาดแบบ เรียบง่าย มีโครงสร้าง และดูแลง่าย การเทรดแบบ Position Trading ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

Position Trading คืออะไร?

Position Trading คือรูปแบบการเทรดระยะยาวที่คุณถือสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี คู่สกุลเงิน หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เป็นระยะเวลานาน เป้าหมายคือการเก็บเกี่ยว “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และมีนัยสำคัญ” ของตลาด มากกว่าการเก็งกำไรจากความผันผวนระยะสั้น

ในขณะที่นักเทรดรายวัน (Day Trader) อาจเข้าเทรดหลายสิบครั้งภายในหนึ่งสัปดาห์ แต่นักเทรดแบบ Position อาจเปิดออเดอร์เพียงไม่กี่ครั้งต่อปีเท่านั้น

Position Trading vs. การลงทุน (Investing)

คุณลักษณะ Position Trading การลงทุนแบบดั้งเดิม
ระยะเวลาการถือ หลายเดือนถึงหลายปี หลายปีถึงหลายทศวรรษ
การบริหารความเสี่ยง ใช้คำสั่ง Stop-Loss ค่อนข้าง Passive มักไม่ค่อยใช้ Stop
การใช้กราฟ ดูกราฟรายสัปดาห์ / รายเดือน ใช้เทคนิคน้อย หรือแทบไม่ใช้
จุดโฟกัส จับ “รอบใหญ่” ของตลาด สร้างความมั่งคั่งแบบค่อยเป็นค่อยไป

Position Trading อยู่ตรงกลางพอดี: ไม่เร็วเกินไป และไม่ปล่อยให้ Passive จนเกินไป ให้ความเป็นระบบโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา

เวลาในการดูแล & ระดับความเครียด

  • เวลาที่ต้องใช้: น้อยมาก (หลายคนเช็กกราฟแค่รายสัปดาห์หรือรายเดือน)
  • ระดับความเครียด: ต่ำ (ความผันผวนระยะสั้นแทบไม่มีผลต่อการตัดสินใจ)
  • เหมาะกับ: มือใหม่ คนที่ออมเงินระยะยาว และคนที่อยากเทรดแบบสบาย ๆ ไม่กดดัน

ถ้าคุณอยากให้เงินเติบโต โดยไม่ต้องทำให้การเทรดกลายเป็นงานประจำเต็มเวลา Position Trading คือแนวทางที่ “พอดี” มาก

การวิเคราะห์แกนหลัก

การเทรดแบบ Position Trading ให้ประสบความสำเร็จนั้นตั้งอยู่บน “สองเสาหลัก” ได้แก่ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ซึ่งเป็น “เหตุผลว่าทำไม” และ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) ซึ่งเป็น “ทิศทาง” เมื่อใช้ร่วมกัน ทั้งสองอย่างจะช่วยให้คุณมองภาพใหญ่ได้ชัดเจนขึ้นว่า ควรเทรดอะไร และ ควรเข้าซื้อขายเมื่อไหร่

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: ทำความเข้าใจ “เหตุผลว่าทำไม”

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานช่วยให้คุณเข้าใจ เหตุผลเชิงลึกว่าทำไมราคาของสินทรัพย์จึงอาจปรับขึ้นหรือปรับลงในระยะยาว นักเทรดแบบ Position Trading จะให้ความสำคัญกับธีมใหญ่ที่ส่งผลยาวนาน มากกว่าการยึดติดกับข่าวระยะสั้น

แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค (Macro Trends): อ่าน “กระแสคลื่น” ของตลาด

ตลาดมักเคลื่อนไหวเป็น “รอบคลื่น” ที่กินเวลาหลายเดือนหรือหลายปี นักเทรดแบบ Position Trading จะมองหาแนวโน้มที่เรียบง่ายและสังเกตได้ชัดเจน เช่น:

  • เศรษฐกิจกำลังขยายตัวหรือชะลอตัว
  • ความต้องการเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด
  • วัฏจักรเงินเฟ้อหรืออัตราดอกเบี้ยในระยะยาว

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์ สิ่งที่คุณต้องทำคือ “ระบุธีมใหญ่ ๆ” ที่ส่งผลต่อตลาดในระยะยาวได้ก็พอ

สุขภาพของบริษัท (Company Health): ทำความเข้าใจความแข็งแกร่งของเรือ

เมื่อเทรดหุ้น ให้โฟกัสที่ตัวชี้วัดที่ตรงไปตรงมา เช่น รายได้เติบโตอย่างสม่ำเสมอหรือไม่? กำไร (Earnings) ดีขึ้นหรือไม่? และอุตสาหกรรมกำลังขยายตัวหรือไม่?

การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): ยืนยัน “ทิศทาง”

การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรดแบบ Position Trading มีไว้เพื่อยืนยันว่าแนวโน้มระยะยาวยังแข็งแรงและไปต่อได้

กรอบเวลา (Timeframes) ที่เหมาะที่สุด: กราฟรายสัปดาห์และรายเดือนช่วยกรอง “สัญญาณรบกวน” ออกไป ส่วนกราฟรายวันใช้เพื่อปรับจังหวะเข้าเทรดให้ละเอียดขึ้น

เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (200-Day Moving Average): เส้นที่สำคัญที่สุด
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน (200-DMA) คือหัวใจสำคัญ เพราะช่วยแสดงทิศทางระยะยาวของตลาดได้ชัดเจน

  • ราคาอยู่เหนือ 200-DMA: แนวโน้มขาขึ้นระยะยาว
  • ราคาอยู่ต่ำกว่า 200-DMA: แนวโน้มขาลงระยะยาว

แนวรับ–แนวต้าน (Support and Resistance): พื้นและเพดานแบบเข้าใจง่าย

  • แนวรับ (Support): ระดับราคาที่ตลาด “เคยเด้งกลับ” ขึ้นมาในอดีต
  • แนวต้าน (Resistance): ระดับราคาที่ตลาด “เคยไปต่อยาก” หรือถูกกดลงมาก่อน

แบบฝึกหัด: กลยุทธ์ Position Trading แบบเรียบง่าย

กลยุทธ์ที่ 1: Trend Following 101 (ตามเทรนด์แบบพื้นฐาน)

หลักการ: ติดตามสินทรัพย์ที่ราคา “อยู่เหนือเส้น 200-DMA” อย่างชัดเจน

กติกาเข้าเทรด: เข้าเมื่อราคาย่อลงมาที่เส้น 200-DMA หรือแนวรับสำคัญ แล้วเริ่ม “เด้งกลับขึ้น” อีกครั้ง

กติกาออกเทรด: ออกเมื่อราคาปิด “หลุด 200-DMA อย่างชัดเจน” หรือหลุดแนวรับระยะยาวที่สำคัญ

กลยุทธ์ที่ 2: The Correction Entry (เข้าในช่วงพักฐาน)

หลักการ: โฟกัสสินทรัพย์ที่อยู่ในขาขึ้น แต่รอให้เกิดการย่อชั่วคราวประมาณ 10–20%

จุดเน้นการเข้าเทรด: เข้าเมื่อราคาเริ่มทรงตัวระหว่างการพักฐาน—มักเห็นเป็น “ยก Low สูงขึ้น (Higher Lows)”

กติกาออกเทรด: ออกเมื่อโครงสร้างระยะยาวพัง โดยทั่วไปคือเมื่อราคาหลุดต่ำกว่า 200-DMA

แผนการเทรดแบบ Position Trading

นักเทรดที่ประสบความสำเร็จทุกคนจะยึดตามแผนที่เรียบง่ายและทำอย่างสม่ำเสมอ

กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

Position Trading คือการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ไม่ใช่การไล่ล่ากำไรแบบรวดเร็ว ความคาดหวังที่สมเหตุสมผลคือประมาณ 8–12% ต่อปี

การบริหารความเสี่ยง: ปกป้องเงินทุนของคุณ

กฎ 1%
อย่าเสี่ยงเกิน 1% ของเงินทั้งพอร์ต ในการเทรดเพียงครั้งเดียว เช่น หากมีทุน £10,000 อย่าเสี่ยงเกิน £100 ต่อหนึ่งสถานะ

การวางจุดตัดขาดทุน (Stop-Loss Placement): วาง Stop-loss ของคุณไว้ที่ต่ำกว่าเส้น 200-DMA เล็กน้อย หรือต่ำกว่าแนวรับที่แข็งแรง เมื่อกำหนดแล้ว ห้ามขยับหนีเด็ดขาด

บันทึกการเทรด

ในทุกการเทรด ให้บันทึกข้อมูลเหล่านี้ไว้: เหตุผลที่เข้า (ปัจจัยพื้นฐาน), สิ่งที่กราฟแสดง (เทคนิค), แผนเข้า/ออก และบันทึกหลังปิดการเทรด

ทัศนคติของเทรดเดอร์: อดทนเหนือความตื่นตระหนก

  • เมินเสียงรบกวน – ข่าวรายวันมักไม่ได้เปลี่ยนเทรนด์ระยะยาว
  • คุณค่าของความอดทน – การเทรดอาจใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผลลัพธ์
  • หลีกเลี่ยงการเทรดมากเกินไป – คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

สรุป

การเทรดแบบ Position Trading มอบแนวทางที่สงบ เป็นระบบ และมองระยะยาว เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ใช้เวลาน้อย และโฟกัสที่แนวโน้มใหญ่ เมื่อผสานธีมปัจจัยพื้นฐานเข้ากับการยืนยันทางเทคนิคและแผนบริหารความเสี่ยงที่แข็งแรง เทรดเดอร์ก็สามารถเพิ่มพูนเงินทุนได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่เครียด

Position Trading ไม่ใช่การวิ่งระยะสั้น แต่มันคือการลงทุนใน “เวลา” “ความอดทน” และ “การเติบโตระยะยาว”

ก่อนเสี่ยงใช้เงินจริง ให้ฝึกฝนโดยใช้ บัญชีเดโม ของเราในการระบุแนวโน้ม ทำเครื่องหมายแนวรับ–แนวต้าน และคำนวณความเสี่ยง 1% เมื่อคุณมั่นใจแล้ว ให้ทำตามแผนอย่างสม่ำเสมอ—และปล่อยให้แนวโน้มทำงานแทนคุณ

ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหาของบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ใช่คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะในการซื้อขายในทุกรูปแบบ