สโมสรบริษัทมูลค่า “ล้านล้านดอลลาร์” ปรับโฉมหน้าใหม่: สมาชิกใหม่และการจัดอันดับที่เปลี่ยนไป

📅 10.03.2025 👤 Steve Miley

ในโพสต์นี้ เราจะพาไปสำรวจบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดเกินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

สโมสรสุดเอ็กซ์คลูซีฟของบริษัทที่มีมูลค่าตลาดเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่นานมานี้ สหรัฐอเมริกาครองความเป็นผู้นำอย่างชัดเจน โดยมีถึง 9 จาก 11 บริษัท ที่ติดอันดับ มาจากหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งเทคโนโลยี การเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค และเฮลธ์แคร์ ขณะที่บทบาทของจีนในคลับนี้ยังคงลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ขยายอิทธิพลครองตลาดมากขึ้น มีถึง 7 บริษัท ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้แก่ NVIDIA, Microsoft, Apple, Alphabet, Amazon, Meta และ Broadcom การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นสัญญาณของการขยับครั้งใหญ่ที่กำลังส่งผลต่อ อนาคตของตลาดการเงินระดับโลก นวัตกรรม และการเป็นผู้นำในแต่ละอุตสาหกรรม เตรียมตัวให้พร้อม เหล่าผู้ที่หลงใหลในโลกการเงิน เพราะเรากำลังจะเจาะลึกถึงความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของคลับ “ล้านล้านดอลลาร์” แห่งนี้!

สารบัญ :

สมาชิกใหม่ร่วมวงปาร์ตี้

คลับบริษัทมูลค่าตลาดระดับ ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (Trillion-Dollar Club) ได้ต้อนรับสมาชิกหน้าใหม่หลายราย และการกลับมาของสมาชิกเก่าอีกหนึ่งราย ถือเป็นหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของคลับนี้

  • ความก้าวหน้าของ Broadcom : ด้วยแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเครือข่ายด้าน AI Broadcom ได้ทะยานข้ามเส้นมูลค่าตลาดระดับล้านล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้ว การผสานระหว่างความเป็นผู้นำด้านการออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ล้ำสมัยและความแข็งแกร่งในซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเชื่อมต่อและชิปแบบกำหนดเองในยุค AI ด้วยมูลค่าตลาด 1.628 ล้านล้านดอลลาร์ Broadcom ก้าวขึ้นมาเคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดาบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
  • อำนาจแห่งชิปของ TSMC : ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก TSMC ได้ก้าวเข้าสู่คลับล้านล้านดอลลาร์อย่างเป็นทางการ ด้วยมูลค่าตลาด 1.373 ล้านล้านดอลลาร์ ความสามารถในการผลิตที่ไร้คู่แข่งของ TSMC ทำให้บริษัทเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อ Apple, NVIDIA และบรรดาผู้นำเทคโนโลยีอีกนับไม่ถ้วน การเติบโตของ TSMC ตอกย้ำว่า อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ที่สุดของเศรษฐกิจโลก
  • หมุดหมายของ Berkshire Hathaway : Berkshire Hathaway ซึ่งยาวนานมานี้ถือเป็นตัวแทนของการลงทุนเชิงคุณค่าในอุดมคติ ภายใต้การนำของ Warren Buffett ได้ก้าวเข้าสู่คลับล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ด้วยมูลค่าตลาด 1.063 ล้านล้านดอลลาร์ Berkshire พิสูจน์ให้เห็นว่าการลงทุนอย่างมีวินัยและธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่ประกันภัยไปจนถึงการขนส่งทางรถไฟ สามารถทัดเทียมกับบรรดายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีได้ทั้งในด้านขนาดและความแข็งแกร่ง
  • การกลับมาของ Tesla : หลังจากช่วงเวลาที่ผันผวนจนหลุดออกจากเกณฑ์ Tesla ได้กลับคืนสู่คลับล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง มูลค่าตลาด 1.416 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับรถยนต์ของบริษัท โครงการด้านการจัดเก็บพลังงานที่เติบโต และความก้าวหน้าอันทะเยอทะยานในเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติและ AI การกลับมาของ Tesla เน้นย้ำให้เห็นถึงทั้งความผันผวนและศักยภาพที่ยั่งยืนของนวัตกรรมที่พลิกโฉมอุตสาหกรรม

สโมสรหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ (The Trillion-Dollar Club) (ณ เดือนกันยายน 2025)

บริษัท มูลค่าตามราคาตลาด*
NVIDIA 4.301 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Microsoft 3.849 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Apple 3.643 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Alphabet (Google) 3.084 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Amazon 2.468 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Meta Platforms (Facebook) 1.955 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Broadcom (AVGO) 1.628 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Saudi Aramco 1.578 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Tesla (TSLA) 1.416 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
TSMC (TSM) 1.373 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
Berkshire Hathaway (BRK.A) 1.063 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

*ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ CompaniesMarketCap.com ซึ่งจัดอันดับบริษัทตามมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) ณ เดือนกันยายน 2025

NVIDIA

Nvidia_logo.svg.webp

มูลค่าตลาด: 4.301 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1993

ข้อมูลพื้นหลัง: เรื่องราวของ NVIDIA คือหลักฐานของพลังแห่งกราฟิก ก่อตั้งโดย Jensen Huang, Chris Malachowsky และ Curtis Priem โดยเริ่มต้นจากวิสัยทัศน์ในการปลดล็อกศักยภาพของกราฟิกคอมพิวเตอร์ จากผู้บุกเบิก หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) เพื่อการเล่นเกมในยุคแรก ปัจจุบัน NVIDIA ได้ก้าวข้ามสู่การเป็นผู้นำด้าน AI และการประมวลผลสมรรถนะสูง (High-Performance Computing) GPU ของ NVIDIA ได้กลายเป็นแกนหลักของเทคโนโลยี AI ช่วยผลักดันความก้าวหน้าในหลากหลายสาขา เช่น Deep Learning ในด้านเกม GeForce GPUs ของ NVIDIA ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับประสบการณ์การเล่นเกมที่สมจริง การมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งของบริษัท ไม่เพียงแต่พลิกโฉมโลกเกม แต่ยังยกระดับสถานะของ NVIDIA ให้เป็นผู้นำด้าน AI, ศูนย์ข้อมูล (Data Centres) และ ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous Vehicles) เรื่องราวของ NVIDIA คือเรื่องของนวัตกรรม ที่พิกเซลและรูปหลายเหลี่ยม (Polygons) ได้ปูทางไปสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ผลิตภัณฑ์หลัก: หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs), โซลูชั่นสำหรับศูนย์ข้อมูล และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ความสำเร็จ: รวมสถานะเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี AI

Microsoft

microsoft.svg

มูลค่าตลาด: 3.849 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1975

ข้อมูลพื้นหลัง: Microsoft เกิดจากวิสัยทัศน์ของ Bill Gates อดีตนักศึกษาที่ลาออกจากมหาวิทยาลัย ซึ่งได้กลายมาเป็นผู้มองการณ์ไกลด้านเทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์รายนี้ได้สร้างรากฐานให้กับโลกคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ ตั้งแต่วันแรกที่ Gates และ Paul Allen เขียนภาษาโปรแกรม BASIC สำหรับเครื่อง Altair 8800 ไปจนถึงการปฏิวัติด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Microsoft ได้ยืนอยู่แถวหน้าของการพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล การเติบโตสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสะท้อนให้เห็นถึงพลังของนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งและพันธกิจในการเสริมศักยภาพให้กับผู้คนและธุรกิจผ่านเทคโนโลยี เรื่องราวของ Microsoft ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของซอฟต์แวร์ แต่เป็นการเดินทางแห่งวิวัฒนาการที่เริ่มจากสตาร์ทอัปในโรงรถและได้ผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก

ผลิตภัณฑ์หลัก: Windows OS, Microsoft Office, Azure

ความสำเร็จ: มีบทบาทสำคัญในด้าน Cloud Computing และการเข้าซื้อกิจการของ LinkedIn และ GitHub

Apple

apple logo.webp

มูลค่าตลาด: 3.643 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1976

ข้อมูลพื้นหลัง: Apple เป็นมากกว่าบริษัทเทคโนโลยี ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมและสไตล์ ก่อตั้งในโรงรถภายใต้วิสัยทัศน์ของ Steve Jobs และ Steve Wozniak เป้าหมายเริ่มต้นของบริษัทคือการทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ด้วยปีที่ผ่านไป Apple ได้กลายเป็นคำพ้องกับดีไซน์ที่หรูหราและนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งได้รับการตอบรับจากฐานลูกค้าที่ภักดีทั่วโลก ตั้งแต่ Macintosh จนถึง iPhone Apple ได้นิยามวิธีการที่เราโต้ตอบกับเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง เรื่องราวของ Apple คือความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ความอัจฉริยะเชิงสร้างสรรค์ และการอุทิศตนอย่างต่อเนื่องในการทำให้เทคโนโลยีเป็นทั้งความงามและการเข้าถึงได้ง่าย

ผลิตภัณฑ์หลัก: iPhone, MacBook, iPad

ความสำเร็จล่าสุด: การเปิดตัวนวัตกรรมอย่างชิป M4 และการขยายบริการ เช่น Apple Music และ Apple TV+

Alphabet (Google)

Alphabet_Inc_Logo_2015.svg.webp

มูลค่าตลาด: 3.084 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1998

ข้อมูลพื้นหลัง: สิ่งที่เริ่มต้นจากโครงการวิจัยในห้องพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Stanford โดย Larry Page และ Sergey Brin ได้พัฒนาเติบโตจนกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อ Alphabet Inc. Google ซึ่งเป็นแกนหลักของ Alphabet ได้แนะนำโลกให้รู้จักกับศิลปะแห่งการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตและจุดประกายการปฏิวัติดิจิทัล อัลกอริทึมอันชาญฉลาดของบริษัทกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการค้นหา Alphabet ยังขยายอิทธิพลไปสู่การพัฒนานวัตกรรมในด้าน Cloud Computing, Android และแม้กระทั่งรถยนต์ไร้คนขับผ่าน Waymo การปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2015 เพื่อก่อตั้ง Alphabet ช่วยให้บริษัทสามารถสำรวจธุรกิจใหม่ ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ Alphabet กลายเป็นสัญลักษณ์ของความอยากรู้อยากเห็นไม่สิ้นสุดและเทคโนโลยีที่พลิกโฉมยุคดิจิทัล

ผลิตภัณฑ์หลัก: Google Search, YouTube, Android

ความสำเร็จล่าสุด: เป็นผู้นำในด้านโฆษณาออนไลน์ ครองความเป็นผู้นำของตลาดด้วย Android และสร้างนวัตกรรมในด้าน AI และเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับ

Amazon

Amazon_logo.svg.webp

มูลค่าตลาด: 2.468 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1994

ข้อมูลพื้นหลัง: ก่อตั้งโดย Jeff Bezos บริษัท Amazon เริ่มต้นจากการเป็นร้านขายหนังสือออนไลน์ในโรงรถเล็ก ๆ ที่ซีแอตเทิล จากจุดเริ่มต้นที่เรียบง่ายนี้ Amazon ได้เติบโตจนกลายเป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และได้เปลี่ยนวิธีที่เราจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างสิ้นเชิง จิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้งของ Amazon ได้ขยายขอบเขตไปไกลกว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบดั้งเดิม ปัจจุบันรวมถึงบริการบุกเบิกอย่าง Amazon Web Services (AWS) ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ ตลอดจนการเข้าสู่อุตสาหกรรมบันเทิงผ่านการผลิตคอนเทนต์ดั้งเดิมกับ Amazon Prime Video อิทธิพลของบริษัทได้แผ่ขยายไปถึงภายในบ้านของผู้คนผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Amazon Echo เรื่องราวของ Amazon ไม่ได้เป็นเพียงการวิวัฒนาการของการค้าปลีก แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการคิดค้นอย่างต่อเนื่องและวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการกำหนดภูมิทัศน์ดิจิทัล

ผลิตภัณฑ์หลัก: Amazon.com, Amazon Web Services (AWS)

ความสำเร็จล่าสุด: ครองความเป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ ขยายสู่ธุรกิจร้านขายของชำด้วย Amazon Fresh และเข้าสู่อุตสาหกรรมบันเทิงผ่าน Amazon Prime Video

Facebook (Meta)

Meta-Logo.webp

มูลค่าตลาด: 1.955 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 2004

ข้อมูลพื้นหลัง: เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในห้องพักนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย Harvard เมื่อ Mark Zuckerberg และเพื่อน ๆ ได้สร้างแพลตฟอร์มโซเชียลชื่อ Facebook สิ่งที่เริ่มต้นจากการเป็นช่องทางสำหรับนักศึกษาในการเชื่อมต่อกัน ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียระดับโลก และได้รีแบรนด์เป็น Meta ในปี 2021 นอกจากการเชื่อมโยงเพื่อนและครอบครัวแล้ว บริษัทยังนำพาเราเข้าสู่ยุคใหม่ของการสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์เสมือนจริง ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Instagram และ WhatsApp Meta ได้ขยายอาณาจักรโซเชียลมีเดียของตนอย่างมหาศาล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Metaverse ได้กลายเป็นจุดสำคัญของบริษัท ผลักดันขอบเขตของการเชื่อมต่อออนไลน์ให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น เรื่องราวของ Meta คือบทพิสูจน์ที่น่าทึ่งว่าธุรกิจสตาร์ทอัปจากมหาวิทยาลัยสามารถเปลี่ยนแปลงตนเองจนกลายเป็นบริษัทที่กำหนดอนาคตของการเชื่อมต่อดิจิทัลและประสบการณ์เสมือนจริงได้

ผลิตภัณฑ์หลัก: Facebook, Instagram, WhatsApp

ความสำเร็จล่าสุด: การขยายแนวคิด Metaverse และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน

Broadcom (AVGO)

Meta-Logo.webp

มูลค่าตลาด: 1.628 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1961

ข้อมูลพื้นหลัง: Broadcom มีจุดเริ่มต้นจากแผนกเซมิคอนดักเตอร์ของ Hewlett-Packard ก่อนที่จะพัฒนาและเปลี่ยนแปลงผ่านการเข้าซื้อกิจการหลายครั้งจนกลายมาเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอย่างในปัจจุบัน บริษัทออกแบบเซมิคอนดักเตอร์และซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เครือข่าย และระบบการสื่อสาร เส้นทางของ Broadcom สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีกับกลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าซื้อกิจการ VMware ที่ช่วยขยายธุรกิจจากฮาร์ดแวร์ไปสู่โครงสร้างพื้นฐานด้านซอฟต์แวร์

ผลิตภัณฑ์หลัก: ชิป AI/ASIC แบบปรับแต่ง, เทคโนโลยีเครือข่ายและสวิตช์ซิลิคอน, เทคโนโลยีไร้สาย/RF, ซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานสำหรับองค์กรรวมถึง VMware

ความสำเร็จล่าสุด: ก้าวข้ามระดับล้านล้านดอลลาร์จากความต้องการสูงเป็นประวัติการณ์ของชิป AI และเครือข่าย การผสานรวม VMware และการขยายตัวในด้านชิปซิลิคอนแบบปรับแต่งที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้ตอกย้ำตำแหน่งของ Broadcom ในฐานะผู้เล่นหลักของเศรษฐกิจโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

Saudi Aramco

undefined

มูลค่าตลาด: 1.578 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1933

ข้อมูลพื้นหลัง: Saudi Aramco เป็นมหาอำนาจด้านพลังงานที่มีรากฐานย้อนกลับไปถึงทศวรรษที่ 1930 เมื่อมีการค้นพบน้ำมันสำรองใต้ทะเลทรายอาหรับ จุดเริ่มต้นจากการร่วมทุนระหว่างสหรัฐอเมริกาและซาอุดีอาระเบีย ได้พัฒนากลายเป็นทรัพย์สินแห่งชาติอันทรงคุณค่าของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เรื่องราวของ Saudi Aramco เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอุตสาหกรรมน้ำมัน ตั้งแต่การก่อตั้ง OPEC การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งสำคัญ ไปจนถึงการปรับตัวตามความต้องการพลังงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ด้วยการครอบครองแหล่งน้ำมันสำรองที่มีค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บริษัทจึงไม่ได้เป็นเพียงองค์กรธุรกิจ แต่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจซาอุดีอาระเบียและผู้นำระดับโลกด้านพลังงาน เรื่องราวของ Saudi Aramco คือการปรับตัว ความแข็งแกร่งที่ไม่สั่นคลอน และบทบาทสำคัญในการกำหนดภูมิทัศน์พลังงานโลกมานานเกือบศตวรรษ

ผลิตภัณฑ์หลัก: น้ำมันดิบ, ก๊าซธรรมชาติ, การกลั่น, และปิโตรเคมี

ความสำเร็จ: ครองความได้เปรียบอย่างแข็งแกร่งในการจัดหาน้ำมันของโลก

Tesla (TSLA)

tesla logo

มูลค่าตลาด: 1.416 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 2003

ข้อมูลพื้นหลัง: Tesla เริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์อันกล้าหาญในการปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อตั้งโดยวิศวกร Martin Eberhard และ Marc Tarpenning และต่อมาถูกผลักดันให้ก้าวสู่เวทีระดับโลกภายใต้การนำของ Elon Musk จากช่วงเริ่มต้นที่ต้องเผชิญความท้าทายกับรุ่น Roadster ไปจนถึงความสำเร็จในตลาดหลักของ Model S และ Model 3 Tesla ได้เปลี่ยนยานยนต์ไฟฟ้าจากตลาดเฉพาะกลุ่มให้กลายเป็นมาตรฐานระดับโลก อิทธิพลของบริษัทขยายไปไกลกว่ารถยนต์ ครอบคลุมอนาคตของพลังงานหมุนเวียน ระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ และการขับขี่อัตโนมัติ เรื่องราวของ Tesla คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานไม่หยุดนิ่ง นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง และการตัดสินใจเสี่ยงอย่างกล้าหาญที่นิยามใหม่ว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในศตวรรษที่ 21 ควรเป็นอย่างไร

ผลิตภัณฑ์หลัก: Model S, Model 3, Model X, Model Y, Cybertruck, Powerwall, Megapack, เครือข่าย Supercharger

ความสำเร็จล่าสุด: กลับคืนสู่คลับล้านล้านดอลลาร์อีกครั้งด้วยการส่งมอบรถที่แข็งแกร่ง การเป็นผู้นำด้านการยอมรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และการขยายโครงการกักเก็บพลังงาน ความก้าวหน้าของ Tesla ในด้านการขับขี่อัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ยังคงทำให้บริษัทเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมที่พลิกโฉมวงการ

TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company)(TSM)

undefined

มูลค่าตลาด: 1.373 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1987

ข้อมูลพื้นหลัง: Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ก่อตั้งโดย Morris Chang เป็นผู้บุกเบิกโมเดลโรงงานผลิตชิปแบบรับจ้างผลิต (pure-play foundry) ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมชิประดับโลก แทนที่จะออกแบบโปรเซสเซอร์ของตนเอง TSMC มุ่งเน้นเฉพาะด้านการผลิตชิปให้กับบริษัทอื่น ๆ ทำให้ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Apple, NVIDIA และ Qualcomm สามารถสร้างนวัตกรรมได้โดยไม่ต้องรับภาระด้านการผลิต ความเชี่ยวชาญที่ไร้คู่แข่งของบริษัทในเทคโนโลยีกระบวนการขั้นสูง — ตั้งแต่ระดับ 7nm จนถึงโหนดล่าสุด 3nm — ทำให้ TSMC กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ของการคอมพิวติ้งสมัยใหม่ ขับเคลื่อนสมาร์ทโฟน ศูนย์ข้อมูล และปัญญาประดิษฐ์

ผลิตภัณฑ์หลัก: บริการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง (โหนด N5, N3 และรุ่นถัดไป), การผลิตชิพเฉพาะทางสำหรับ AI, สมาร์ทโฟน และการประมวลผลสมรรถนะสูง (High-Performance Computing)

ความสำเร็จล่าสุด: เข้าสู่คลับล้านล้านดอลลาร์จากความต้องการชิปขั้นสูงที่ทำสถิติสูงสุด ยืนยันตำแหน่งในฐานะแกนหลักของการปฏิวัติด้าน AI และสมาร์ทโฟน ด้วยโครงการขยายธุรกิจระดับโลกในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น TSMC ยังคงเสริมสร้างความเป็นผู้นำในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์

Berkshire Hathaway (BRK.A)

undefined

มูลค่าตลาด: 1.063 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปีที่ก่อตั้ง: 1839

ข้อมูลพื้นหลัง: Berkshire Hathaway มีรากฐานมาจากบริษัทสิ่งทอในนิวอิงแลนด์ที่เคยประสบปัญหาธุรกิจ ก่อนจะเปลี่ยนแปลงตัวเองจนกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท (Conglomerate) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ภายใต้การนำของ Warren Buffett Buffett ที่ได้รับฉายาว่า “Oracle of Omaha” ได้สร้าง Berkshire ให้กลายเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่มีการกระจายการลงทุนอย่างไร้คู่เปรียบ ครอบคลุมตั้งแต่ ธุรกิจประกันภัย, รถไฟ, สาธารณูปโภคและพลังงาน, ค้าปลีก, การผลิต ไปจนถึงการถือหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก เช่น Apple และ Coca-Cola บริษัทนี้สะท้อนถึงการยึดมั่นในแนวทางการลงทุนเชิงคุณค่า (Value Investing) การมองระยะยาว และพลังของการทบต้น (Compounding) วิวัฒนาการของ Berkshire จากโรงงานสิ่งทอที่ล้มเหลวไปสู่การเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับล้านล้านดอลลาร์ ถือเป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับ ความอดทน วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และความชำนาญทางการเงิน

ผลิตภัณฑ์หลัก: ประกันภัย (GEICO), การขนส่งทางรถไฟ (BNSF Railway), สาธารณูปโภคและพลังงาน (Berkshire Hathaway Energy), บริษัทในเครือด้านผู้บริโภคและอุตสาหกรรม, และพอร์ตการลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำ

ความสำเร็จล่าสุด: เข้าสู่คลับล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ตอกย้ำมรดกในฐานะบริษัทโฮลดิ้งที่มีการกระจายธุรกิจอย่างสมบูรณ์แบบ Berkshire ยังคงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งจากธุรกิจหลัก พร้อมทั้งรักษาเงินสดสำรองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดาบริษัทอเมริกัน มอบทั้งความมั่นคงและความยืดหยุ่นสำหรับโอกาสในอนาคต

การกลับคืนสู่คลับของ Tesla

Tesla ผู้บุกเบิกด้านรถยนต์ไฟฟ้า เคยหลุดต่ำกว่าหลักล้านล้านดอลลาร์ชั่วคราวในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนอย่างรุนแรง เหตุการณ์สะดุดนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้แต่นวัตกรรมที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมก็ยังอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของกระแสความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูง อย่างไรก็ตาม ความถดถอยนั้นเป็นเพียงชั่วคราว ด้วยการส่งมอบรถที่แข็งแกร่ง การขยายตัวในธุรกิจการจัดเก็บพลังงาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ Tesla กลับขึ้นมายืนเหนือหลักล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง ยืนยันสถานะของบริษัทในฐานะหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก

รายชื่อที่รอคอย: ใครจะเป็นรายต่อไป?

เมื่อ Tesla, TSMC และ Berkshire Hathaway เข้าสู่คลับล้านล้านดอลลาร์อย่างมั่นคงแล้ว ความสนใจได้หันไปยังผู้ท้าชิงรายต่อไปที่กำลังเข้าใกล้เส้นหมุดหมายนี้:

  • Eli Lilly (LLY) – ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเภสัชกรรม: ผู้นำด้านการดูแลสุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วยการรักษาที่ก้าวล้ำในโรคเบาหวาน มะเร็ง และโรคอ้วน ด้วยมูลค่าตลาดราว 882 พันล้านดอลลาร์ Eli Lilly กำลังก้าวหน้าอย่างมั่นคง และอาจช่วยเพิ่มบทบาทของภาคการดูแลสุขภาพให้แข็งแกร่งขึ้นภายในคลับ
  • JPMorgan Chase (JPM) – ยักษ์ใหญ่ด้านการธนาคาร: ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่าประมาณ 695 พันล้านดอลลาร์ ยังคงเป็นพลังขับเคลื่อนหลักในระบบการเงินโลก แม้ว่ายังอยู่ห่างจากระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ด้วยขนาดและความสามารถในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ยังคงเป็นชื่อที่ต้องจับตา
  • Walmart (WMT) – ยักษ์ใหญ่แห่งค้าปลีก: ด้วยมูลค่าตลาดราว 520 พันล้านดอลลาร์ Walmart ยังคงครองความเป็นผู้นำในค้าปลีกทั่วโลก แม้จะยังไม่ใช่ผู้ท้าชิงในระยะสั้น แต่ด้วยเครือข่ายอันกว้างขวางและการปรับตัวเข้าสู่ อีคอมเมิร์ซ ทำให้ Walmart ยังคงเป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพในระยะยาว

การก่อกำเนิดของบริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์

แล้วบริษัทต่าง ๆ ก้าวไปสู่มูลค่ามหาศาลระดับ **หนึ่งล้านล้านดอลลาร์** ได้อย่างไร? เส้นทางนี้เต็มไปด้วย **ความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอน**, **ความคิดสร้างสรรค์อันโดดเด่น**, และบางครั้งยังต้องอาศัย **โชคที่คาดไม่ถึง** ลองมาดูองค์ประกอบสำคัญที่มีบทบาทในการผลักดันให้บริษัทเหล่านี้ก้าวขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่ทางการเงินระดับโลก

**เทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม:** ในยุคดิจิทัล นวัตกรรมคือรากฐานแห่งความสำเร็จ บริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์มักจะเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยอยู่เสมอ พวกเขาไม่เพียงแค่ตามกระแส แต่เป็นผู้สร้างเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ล้ำยุค, ซอฟต์แวร์พลิกวงการ, หรือ บริการรูปแบบใหม่ — **นวัตกรรมคือแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของพวกเขา**

**การครองความเป็นผู้นำตลาด:** บริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์ไม่พอใจแค่ ส่วนแบ่งเล็ก ๆ ของตลาด แต่ตั้งเป้าที่จะ **ครองตลาดทั้งหมด** พวกเขาโดดเด่นด้วยการเอาชนะคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม แต่ยังกลายเป็น **มาตรฐานของอุตสาหกรรมนั้นเอง**

**การขยายสู่ระดับโลก:** เพื่อให้ก้าวถึงมูลค่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ บริษัทต้องมี **อิทธิพลในระดับสากล** พวกเขาสร้างการดำเนินงานทั่วโลก ให้บริการตลาดที่หลากหลาย และสร้างฐานผู้ใช้ขนาดมหาศาล ผลิตภัณฑ์และบริการของพวกเขาสามารถตอบโจทย์ผู้คนทั่วโลก

**การเติบโตอย่างต่อเนื่อง:** **การเติบโตอย่างยั่งยืน** คือองค์ประกอบหลัก บริษัทเหล่านี้ไม่ได้แค่เติบโตแบบพุ่งสูงชั่วคราวแล้วดับลง แต่สามารถรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งช่วยสร้าง **ความเชื่อมั่นของนักลงทุน** และทำให้สถานะของพวกเขาแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาด

ความท้าทายและภาพรวมที่ใหญ่กว่า

การก้าวสู่หลักล้านล้านดอลลาร์นำมาซึ่งชื่อเสียง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่เฉพาะตัว บริษัทเหล่านี้อยู่ภายใต้การจับตามองอย่างต่อเนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแล ผู้กำหนดนโยบาย และสาธารณชน ไม่ว่าจะเป็นในประเด็นเกี่ยวกับ **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (data privacy)**, **กฎหมายต่อต้านการผูกขาด (antitrust issues)** หรือ **แนวทางปฏิบัติด้านแรงงาน (labour practices)** การรักษาบุคลากรที่มีความสามารถและการคงความคล่องตัวก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย: เมื่อองค์กรเติบโตขึ้น การคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณแห่งนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะแรก ๆ อาจยากขึ้น ขณะเดียวกัน อิทธิพลของพวกเขาขยายไปไกลเกินกว่าผลประกอบการรายไตรมาส บริษัทระดับล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันมีบทบาทในการกำหนด **ห่วงโซ่อุปทาน (supply chains)**, **นโยบายพลังงาน (energy policy)** และแม้กระทั่ง **จังหวะของนวัตกรรมระดับโลก** โชคชะตาของพวกเขาผูกพันอย่างใกล้ชิดกับประเด็นมหภาค เช่น **อัตราดอกเบี้ย (interest rates)**, **ความตึงเครียดทางการค้า (trade tensions)** และ **วิวัฒนาการอย่างรวดเร็วของปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence)** สำหรับทั้งนักลงทุนและผู้กำหนดนโยบาย ภาพรวมที่ใหญ่กว่านั้นชัดเจน: ผลประกอบการและทิศทางของบริษัทยักษ์เหล่านี้จะยังคงเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดทั่วโลกต่อไป

วิธีที่บทความนี้ช่วยนักเทรดหุ้น

  1. **ระบุผู้นำตลาดและแนวโน้ม:** รายชื่อบริษัทที่มีมูลค่าล้านล้านดอลลาร์แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าภาคส่วนใดกำลังขับเคลื่อนตลาดโลก ด้วย **AI**, **เซมิคอนดักเตอร์** และ **คลาวด์คอมพิวติ้ง** ที่ปัจจุบันครองความโดดเด่นเคียงข้างพลังงาน นักเทรดสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกนี้ในการ **หมุนเวียนการลงทุนระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรม (sector rotation)** โดยให้น้ำหนักมากขึ้นกับกลุ่มที่แข็งแกร่ง เช่น ชิปและโครงสร้างพื้นฐาน AI ในขณะที่ลดการถือครองในกลุ่มที่กำลังเผชิญกับกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นหรือความต้องการที่ชะลอตัว
  2. **มองหาโอกาสการทะลุแนวต้าน (Breakouts):** บริษัทที่อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ล้านล้านดอลลาร์เพียงเล็กน้อย เช่น Eli Lilly, JPMorgan หรือ Walmart เป็นตัวแทนของ **โอกาสที่อาจเกิดแรงส่ง (momentum)** ได้ นักเทรดที่ติดตามบริษัทเหล่านี้สามารถวางตำแหน่งได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจับโอกาสในการทะลุแนวต้าน เมื่อมูลค่าบริษัทข้ามเส้นเชิงสัญลักษณ์ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมักจะดึงดูดความสนใจจากสื่อและกระแสเงินลงทุนเพิ่มขึ้น
  3. **ตระหนักรู้ในมุมมหภาคและภูมิรัฐศาสตร์:** โครงสร้างของคลับล้านล้านดอลลาร์สะท้อน **ธีมระดับโลก** ที่กว้างขึ้น บริษัทพลังงานรายใหญ่ ผู้ผลิตชิป และผู้นำคลาวด์ ต่างตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ห่วงโซ่อุปทาน หรือความตึงเครียดระหว่างประเทศในลักษณะที่แตกต่างกัน สำหรับนักเทรดที่ใช้ปัจจัยมหภาคในการคาดการณ์ความผันผวน การเข้าใจว่าบริษัทยักษ์ใดครองตลาดจะช่วยให้มองเห็นว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มาตรการภาษีศุลกากร หรือกฎระเบียบส่งผลกระทบต่อตลาดในวงกว้างอย่างไร
  4. **ข้อมูลเชิงพื้นฐานและมุมมองระยะยาว:** เหนือกว่าการเทรดระยะสั้น คลับนี้ยังเน้นให้เห็นบริษัทที่มี **ความได้เปรียบเชิงการแข่งขันลึกซึ้ง** และ **มีมูลค่าที่ยั่งยืน** ระบบนิเวศของ Apple ความเป็นผู้นำของ Nvidia ใน AI และบทบาทของ TSMC ในห่วงโซ่อุปทานชิประดับโลก ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของขนาด แต่เป็นเรื่องของ **พื้นฐาน** สำหรับนักลงทุนระยะยาว บริษัทเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น **เสาหลักในการสร้างพอร์ตการลงทุน** และในธีมของ **นวัตกรรมและความยืดหยุ่น**

บทสรุป: ภูมิทัศน์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง

การปรับโครงสร้างของคลับบริษัทมูลค่าล้านล้านดอลลาร์สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจโลกที่มีพลวัต แม้ว่าบริษัทจากสหรัฐอเมริกาจะครองความโดดเด่น แต่การมีอยู่ของ TSMC และ Saudi Aramco แสดงให้เห็นถึงบทบาทสำคัญของ **การพึ่งพาซึ่งกันและกันของโลก** ในตลาดเทคโนโลยีและพลังงาน ในขณะที่ตลาดเหล่านี้กำลังพัฒนา บทต่อไปจะถูกกำหนดโดย **นวัตกรรมทางเทคโนโลยี**, **พลวัตทางภูมิรัฐศาสตร์** และ **ความสามารถของยักษ์ใหญ่เหล่านี้ในการนำทางในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง**

หากคุณสนใจเพิ่มเติม ลองดูบทความของเรา:

นอกจากนี้ ขอแนะนำให้คุณศึกษา ใครคือผู้นำในการจัดอันดับ GDP โลก

ข้อสงวนสิทธิ์: เนื้อหาของบทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ใช่คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะในการซื้อขายในทุกรูปแบบ