นักเทรดหรือนักลงทุนที่ดีจะใช้เครื่องมือที่มีอยู่เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดให้กับการเทรดและการลงทุนของพวกเขา เราจะเจาะรายละเอียดเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดประเภทต่างๆ ที่นักลงทุนและนักเทรดใช้ได้ และเน้นย้ำถึงเครื่องมือที่สำคัญที่สุดห้าอันดับแรกที่คุณใช้เมื่อทำการซื้อขาย
ประเภทของเครื่องมือวิเคราะห์ตลาด
เราจะแนะนำเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่สำคัญสามชนิด ได้แก่ เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เครื่องมือคัดกรอง และเครื่องมือวิเคราะห์ความเชื่อมั่น แต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียตามลำดับ และควรใช้อย่างสมดุลกัน
เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเพียงเครื่องมือวัดที่ใช้เพื่อทำการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินที่เจาะจงได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) ดัชนีความสัมพันธ์สัมพัทธ์ (RSI) และดัชนีอาร์มส์/ ดัชนีการซื้อขายระยะสั้น (TRIN)
เครื่องมือคัดกรองคือวิธีการค้นหาตราสารทางการเงิน (เช่น หุ้น) ที่เหมาะกับเกณฑ์ที่กำหนด และช่วยให้คุณในฐานะนักเทรดไม่ต้องค้นหาหุ้นด้วยตนเอง
เครื่องมือวิเคราะห์ความเชื่อมั่นเป็นเครื่องมือที่พยายามตรึงความเชื่อมั่นของตัวแทนในตลาด เช่น “จิตวิญญาณของสัตว์” ตัวอย่างของเครื่องมือวิเคราะห์ความเชื่อมั่น คือ หน่วยงานกำกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (CFTC) รายงานการถือครองสัญญาของนักเทรด
ห้าอันดับเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดยอดนิยมของเรา
เครื่องมือ | ประเภทเครื่องมือ |
---|---|
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MAs) | การวิเคราะห์ทางเทคนิค |
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) | การวิเคราะห์ทางเทคนิค |
ดัชนีอาร์มส์/ ดัชนีการซื้อขายระยะสั้น (TRIN) | การวิเคราะห์ทางเทคนิค |
เครื่องมือคัดกรองหุ้น | เครื่องมือคัดกรอง |
CFTC รายงานการถือครองสัญญาของนักเทรด | การวิเคราะห์ความเชื่อมั่น |
1. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MAs)
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เรียบง่าย ถูกใช้โดยนักเทรดจากรุ่นสู่รุ่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ คือ ราคาเฉลี่ยเลขคณิตของหุ้นในช่วงเวลาที่กำหนด และสามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มของราคาและขจัดสัญญาณรบกวนออกจากข้อมูลราคาของหุ้นบางตัว ตัวอย่างเช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่ายที่มีระยะเวลาย้อนหลัง 5 วันจะใช้ค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมา คุณสามารถเปลี่ยนแปลงระยะเวลาย้อนหลังได้เพื่อปรับปรุง “ความราบรื่น” ของค่าเฉลี่ยเมื่อเวลาผ่านไป ระยะเวลามองย้อนหลังที่นานขึ้นจะสร้างข้อมูลที่มีความผันผวนน้อยลง มีเครื่องมือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีรูปแบบซับซ้อนกว่าเล็กน้อยที่คุณใช้ได้ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล ซึ่งให้น้ำหนักน้อยลงกับค่าย้อนหลังของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และให้น้ำหนักมากขึ้นกับราคาล่าสุด เป็นที่น่าสังเกตว่า ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ใช้ข้อมูลในอดีต และไม่มีกลไกพื้นฐานที่บ่งบอกว่าเป็นตัวทำนายข้อมูลอนาคตได้ แต่ทว่าคุณสามารถใช้เพื่อระบุแนวโน้มในข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจการเทรดที่ดีขึ้นได้
2. ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย ใช้เพื่อพยายามหาปริมาณความเร็วและขนาดของการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา เพื่อระบุว่าหุ้นนั้น “ซื้อมากเกินไป” หรือ “ขายมากเกินไป” พูดอีกอย่างก็คือ RSI สะท้อนถึงโมเมนตัมของหุ้นอย่างเจาะจง RSI มีค่าตั้งแต่ 0% ถึง 100% เมื่อ RSI เกิน 70% จะถือว่าหุ้นมีการซื้อมากเกินไป และเมื่อ RSI ต่ำกว่า 30% จะถือว่าขายมากเกินไป นี่เป็นข้อมูลที่มีค่าสำหรับนักเทรด เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้บ่งบอกได้ถึงโอกาสในการซื้อและขายในระยะสั้น เกณฑ์เหล่านี้เป็นเพียงหลักการง่ายๆ และนักเทรดสามารถสร้างเกณฑ์ที่ปรับตามบริบทเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นถึงโมเมนตัมของหุ้นได้
3. ดัชนีอาร์มส์/ ดัชนีการซื้อขายระยะสั้น (TRIN)
ดัชนีอาร์มส์/ ดัชนีการซื้อขายระยะสั้น (TRIN) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ซึ่งใช้เพื่อพยายามวิเคราะห์ความเชื่อมั่นตลาด และระบุเมื่อหุ้นในดัชนีมีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป TRIN ใช้อัตราส่วนเพิ่มขึ้น/ลดลง (AD) (จำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นหารด้วยจำนวนหุ้นที่ลดลง) และหารด้วยปริมาณ AD (ปริมาณของหุ้นที่เพิ่มขึ้นหารด้วยปริมาณของหุ้นที่ลดลง)
หุ้นที่เพิ่มขึ้นคือหุ้นที่มีมูลค่าสูงขึ้นในช่วงเวลาที่พิจารณา และหุ้นที่ลดลงคือหุ้นที่มีมูลค่าลดลงในช่วงเวลาที่พิจารณา เมื่อ TRIN เท่ากับ 1 แสดงว่าอยู่ในสถานะที่เป็นกลาง เมื่อ TRIN น้อยกว่า 1 ดัชนีบ่งบอกว่าเกิดการซื้อมากเกินไป และเมื่อ TRIN มากกว่า 1 ดัชนีบ่งชอกว่าเกิดการขายมากเกินไป ยิ่งค่า TRIN แตกต่างจาก 1 มากเท่าใด แสดงว่าดัชนีมีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปมากเท่านั้น
4. เครื่องมือคัดกรองหุ้น
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น เครื่องมือคัดกรองหุ้นเป็นวิธีง่ายๆ ในการค้นหาหุ้นที่ตรงกับเกณฑ์ที่กำหนด เนื่องจากมีจำนวนหุ้นมหาศาล นี่จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเป็นกลางในการขยายพอร์ตการลงทุนของคุณ เครื่องมือคัดกรองหุ้น คือ ฐานข้อมูลรายชื่อบริษัทที่มีชุดตัวแปรสำหรับแต่ละบริษัท และอินเทอร์เฟสที่ช่วยให้คุณจำกัดการค้นหาให้แคบลง คุณสามารถจำกัดการค้นหาให้แคบลงโดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เราได้กล่าวถึงข้างต้น หรือใช้ตัวชี้วัดอื่นๆ โดยขึ้นอยู่กับเครื่องมือคัดกรองหุ้นที่คุณใช้
5. CFTC รายงานการถือครองสัญญาของนักเทรด
รายงานการถือครองสัญญาของนักเทรดคือรายงานรายสัปดาห์ที่เผยแพร่โดย CFTC ซึ่งแสดงพฤติกรรมการลงทุนของกลุ่มที่เข้าร่วมในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการทำนายพฤติกรรมในอนาคตของตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และนักเทรดสามารถใช้เพื่อกำหนดพฤติกรรมการลงทุนของตนเองได้
ประเด็นสำคัญของเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดยอดนิยม
นักเทรดที่ดีจะใช้เครื่องมือในจำนวนที่เหมาะสมในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อพิจารณาพฤติกรรมการซื้อขาย ยิ่งใช้เครื่องมือมากเกินไปจะทำให้ข้อมูลการวิเคราะห์เยอะเกินไป และอาจทำให้คุณต้องประสบภาวะคิดมากไปจนตัดสินใจไม่ได้ แต่หากคุณใช้เครื่องมือน้อยเกินไป การวิเคราะห์ของคุณจะไม่ละเอียดพอ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจว่าเครื่องมือเหล่านี้สร้างขึ้นอย่างไรเพื่อทำความเข้าใจข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการที่คุณเชื่อมั่นในเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง เครื่องมือที่เราได้สรุปไว้ในวันนี้ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งเรายังไม่ได้กล่าวถึงในรายละเอียดมากนัก ดังนั้น คุณจึงควรศึกษาและตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดถึงวิธีการทำงานและบริบทในการใช้งาน เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะพบเครื่องมือที่คุณเข้าใจและใช้งานได้ดีที่สุด