CFDs are complex instruments and come with a high risk of losing money rapidly due to leverage. 62% of retail investor accounts lose money when trading CFDs with this provider.

You should consider whether you understand how CFDs work and whether you can afford to take the high risk of losing your money.

Please be advised that our Client Portal is scheduled for essential maintenance this weekend from market close on Friday 5th April, 2024, and should be back up and running before markets open on Sunday 7th April, 2024.

เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่าเรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดต Client Portal เพื่อมุ่งเน้นที่จะปรับปรุงประสบการณ์ของคุณกับเรา
Client Portal จะไม่พร้อมให้คุณใช้งานตั้งแต่ตลาดปิดใน วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 และควรสำรองข้อมูลและทำงานก่อนตลาดเปิดให้บริการใน วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567

CFDs are complex instruments and come with a high risk of losing money rapidly due to leverage. 62% of retail investor accounts lose money when trading CFDs with this provider.

You should consider whether you understand how CFDs work and whether you can afford to take the high risk of losing your money.

Search
Close this search box.

เปิดศึกประจันหน้า: ตลาดฟอเร็กซ์กับตลาดหุ้น ตลาดไหนให้ศักยภาพในการเทรดที่ดีกว่ากัน?

ในโพสต์นี้ เราจะสำรวจความแตกต่างระหว่างตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้น และช่วยคุณตัดสินใจว่าตลาดใดที่เหมาะกับคุณ
forex market vs stock market

เนื่องจากความรู้เกี่ยวกับการเงินนั้นเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผู้คนจำนวนมากขึ้นหันมาหาตลาดการเงินเพื่อเป็นช่องทางในการลงทุนและเพิ่มความมั่งคั่ง อย่างไรก็ตาม “ตลาดการเงิน” เป็นคำหลวมๆ ซึ่งครอบคลุมตลาดอย่างกว้างขวางและหลากหลาย เราขอสมมติว่าคุณค่อนข้างใหม่กับการเทรด/การลงทุน ดังนั้นเราจะมาดูตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสองแห่ง คือ ตลาดหุ้นกับตลาดฟอเร็กซ์ เพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลว่าควรเลือกตลาดใด คุณจะต้องศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียด และบทความนี้จะให้ข้อมูลเจาะลึกและเป็นฐานความรู้ที่ดีเยี่ยมที่จะช่วยคุณในการตัดสินใจ เราจะพาคุณไปดูความแตกต่างระหว่างสองตลาดและช่วยคุณตัดสินใจว่าตลาดใดเหมาะกับคุณ

สารบัญ:

 

ตลาดหุ้นกับตลาดฟอเร็กซ์: มันคืออะไร?

 

ตลาดหุ้นน่าจะได้รับความนิยมมากกว่าจากสองตัวเลือกนี้ คุณน่าจะเคยดูเรื่อง Wolf of Wall Street (หรือแม้แต่ Wall Street ถ้าคุณอายุเยอะกว่านั้น) และคิดว่าตลาดหุ้นดูน่าตื่นเต้นมาก แม้ว่าอาจจะไม่เหมือนกับที่คุณเห็นในภาพยนตร์เท่าไหร่นัก แต่ตลาดหุ้นก็น่าตื่นเต้นได้หากคุณหลงใหลเรื่องเหล่านี้ และคุณก็ควรจะเป็นเช่นนั้นหากคุณต้องการที่จะเป็นเทรดเดอร์/นักลงทุน!  ตลาดหุ้นเป็นตลาดกลางที่มีการเทรดหุ้นของบริษัทต่างๆ ที่มีการซื้อขายกันในตลาดหลักทรัพย์ นี่เป็นตลาดที่นักลงทุนสามารถซื้อและขายหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เมื่อคุณลงทุนในตลาดหุ้น คุณกำลังซื้อกรรมสิทธิ์เล็กๆ ในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เช่น Apple หรือ Tesla

ในอีกด้านหนึ่ง คุณมีตลาดฟอเร็กซ์ซึ่งไม่ดังเท่าตลาดหุ้น แต่คุณก็น่าจะเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่มีรูปแบบกระจายศูนย์ซึ่งมีการเทรดสกุลเงินทั่วโลก ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณการเทรดเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์และมีคู่เงินอยู่มากมาย และต่างจากตลาดหุ้นตรงที่ไม่มีตลาดแลกเปลี่ยนกลางหรือที่ตั้งทางกายภาพสำหรับตลาดฟอเร็กซ์ โดยจะเป็นการเทรดนอกตลาด ซึ่งหมายความว่าการทำธุรกรรมจะดำเนินการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

 

สภาพคล่อง

 

หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญระหว่างตลาดหุ้นกับตลาดฟอเร็กซ์คือสภาพคล่อง โดยสภาพคล่องนั้นหมายถึงความสะดวกในการซื้อหรือขายสินทรัพย์โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาของสินทรัพย์ เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เงินสดที่คุณเป็นเจ้าของนั้นมีสภาพคล่องสูงเนื่องจากไม่มีอะไรมีสภาพคล่องมากไปกว่าเงินสด และตามคำจำกัดความนี้ รถของคุณมีสภาพคล่องน้อยกว่าเล็กน้อย และบ้านของคุณมีสภาพคล่องน้อยกว่ามาก โดยทั่วไปแล้วตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องมากกว่าตลาดหุ้น ซึ่งก็สมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาถึงว่าตลาดฟอเร็กซ์เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนสกุลเงิน สภาพคล่องของตลาดฟอเร็กซ์ยังเป็นผลมาจากขนาดและการดำเนินการ (ความถี่ในการเทรด) ที่มีปริมาณเยอะกว่ามาก สภาพคล่องที่สูงของตลาดฟอเร็กซ์หมายความว่าเทรดเดอร์สามารถเข้าและออกจากการเทรดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายโดยไม่ต้องกังวลกับการหาผู้ซื้อหรือผู้ขาย

ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดหุ้นอาจมีสภาพคล่องน้อยกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็กหรือหุ้นที่มีปริมาณการเทรดต่ำ หมายความว่าการเข้าหรือออกจากการเทรดโดยไม่กระทบต่อราคาหุ้นอาจทำได้ยากขึ้น แต่หลักทรัพย์และหุ้นยังคงถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากพอ ดังนั้นนี่จึงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเสียมากกว่า และคุณไม่น่าจะประสบปัญหาสภาพคล่องหากมีกลยุทธ์การเทรด/การลงทุนที่สมเหตุสมผลในทั้งสองตลาด

 

ความผันผวน

 

ความแตกต่างอีกประการระหว่างตลาดหุ้นกับตลาดฟอเร็กซ์คือความผันผวน โดยความผันผวนนั้นหมายถึงระดับความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วตลาดฟอเร็กซ์จะมีความผันผวนมากกว่าตลาดหุ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความง่ายและความถี่ที่เทรดเดอร์ทำการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์  ความผันผวนในระดับที่น้อยกว่าอีกส่วนหนึ่งมาจากการที่ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเมือง การเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจ และการตัดสินใจของธนาคารกลาง ปัจจัยเหล่านี้สามารถทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาอย่างมีนัยสำคัญในตลาดฟอเร็กซ์ ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น

ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดหุ้นมีแนวโน้มที่จะมีความผันผวนน้อยกว่า อย่างน้อยก็ในบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีประวัติยาวนาน ซึ่งเป็นประเภทของบริษัทที่คุณน่าจะเลือกเทรด เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดฟอเร็กซ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคานั้นจำกัดอยู่ที่บริษัทและอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าหุ้นบางตัวอาจมีความผันผวนอย่างมาก แต่ตลาดหุ้นโดยรวมมักจะมีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ความผันผวนไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายเสมอไป หากคุณต้องการที่จะเป็นเดย์เทรดเดอร์/สวิงเทรดเดอร์ ความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์มีแนวโน้มที่จะเป็นเรื่องดีมากกว่าเรื่องแย่เพราะนั่นคือโอกาสในการทำกำไรที่มากขึ้น ความผันผวนอาจเป็นที่พึงปรารถนาน้อยกว่าหากคุณต้องการถือสถานะในระยะยาว เช่นนี้ตลาดหุ้นอาจเหมาะกับคุณมากกว่า

 

ช่วงเวลาทำการซื้อขาย

 

ความแตกต่างอีกประการระหว่างตลาดหุ้นกับตลาดฟอเร็กซ์คือช่วงเวลาทำการซื้อขาย ตลาดหุ้นมีช่วงเวลาทำการซื้อขายต่างกันไปในแต่ละตลาด ส่วนตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเปิดตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ซึ่งหมายความว่าผู้เทรดฟอเร็กซ์สามารถเทรดได้ตลอดทั้งวัน และทุกวันหากต้องการ โดยใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นในตลาด หากคุณโชคดีพอที่จะอาศัยอยู่ในเขตเวลาเดียวกันกับตลาดหลักทรัพย์หลัก ทั้งตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้นจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ แต่ถ้าหากคุณอาศัยอยู่นอกเขตเวลาของตลาดหลักทรัพย์หลัก ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะเทรดในตลาดหุ้นอย่างสะดวกสบายและสม่ำเสมอ

 

เลเวอเรจ

 

หนึ่งในข้อได้เปรียบที่สำคัญของตลาดฟอเร็กซ์เหนือตลาดหุ้นก็คือเลเวอเรจ โดยเลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมสถานะที่ใหญ่ขึ้นได้ด้วยเงินทุนจำนวนน้อยลง ในตลาดฟอเร็กซ์ เมื่อเทรดสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เลเวอเรจอาจสูงถึง 200:1 หมายความว่าเทรดเดอร์สามารถควบคุมสกุลเงินมูลค่า £200 ได้ด้วยเงินทุนเพียง £1 ในอีกด้านหนึ่ง เลเวอเรจในตลาดหุ้นสำหรับ CFD หุ้นมักจะต่ำกว่ามาก ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2:1 หรือ 3:1 หมายความว่าคุณสามารถควบคุมหุ้นมูลค่า £2 หรือ £3 ได้ด้วยเงินทุน £1 นั่นหมายความว่าเทรดเดอร์จะต้องมีเงินทุนจำนวนมากขึ้นเพื่อควบคุมสถานะปริมาณมากในตลาดหุ้น และนั่นหมายความว่าความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินทุนทั้งหมดในตลาดฟอเร็กซ์มีสูงกว่า โปรดจำไว้ว่าหากบางสิ่งดูดีเกินกว่าจะเป็นเรื่องจริง นั่นย่อมแฝงมาด้วยข้อด้อยเสมอ ใช่ มันง่ายกว่าที่จะเริ่มเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ แต่สิ่งนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินที่สูงกว่า

 

ตลาดไหนเหมาะกับคุณ?

 

คำตอบขึ้นอยู่กับเป้าหมายการเทรด ความชอบ และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ คุณต้องตัดสินใจว่ากลยุทธ์การเทรด/การลงทุนของคุณจะเป็นรูปแบบใด ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะอยากเป็นเดย์เทรดเดอร์/สวิงเทรดเดอร์ ซึ่งในกรณีนี้ ความชอบของคุณอาจเอนเอียงไปทางตลาดฟอเร็กซ์ หรืออีกทางหนึ่ง หากคุณต้องการถือสถานะระยะยาว ในกรณีนี้หลักทรัพย์และหุ้นอาจจะเหมาะกว่า

หากคุณกำลังมองหาตลาดที่มีสภาพคล่องสูงและมีศักยภาพในการทำกำไรจำนวนมาก ตลาดฟอเร็กซ์คือคำตอบของคุณ เลเวอเรจที่สูงในตลาดฟอเร็กซ์ทำให้เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้เป็นจำนวนมากโดยใช้เงินทุนจำนวนไม่มาก แต่นั่นก็หมายความว่าตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงและเทรดเดอร์จะต้องพร้อมจัดการความเสี่ยงอย่างระมัดระวัง

ในอีกด้านหนึ่ง หากคุณกำลังมองหาตลาดที่มีเสถียรภาพมากกว่าและมีความผันผวนน้อยกว่า ตลาดหุ้นก็ดูจะเหมาะสมกว่า แม้ว่าตลาดหุ้นจะมีความเสี่ยงในตัวเอง เช่น ความเสี่ยงเฉพาะบริษัทและความเสี่ยงทั่วทั้งตลาด แต่ตลาดโดยรวมมีแนวโน้มที่จะมีความผันผวนน้อยกว่าตลาดฟอเร็กซ์ นอกจากนี้ตลาดหุ้นยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาการเติบโตในระยะยาวมากกว่าผลกำไรจากการเทรดระยะสั้น

ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณานอกเหนือจากลักษณะเฉพาะของตลาดแต่ละแห่ง ตัวอย่างเช่น มีเหตุผลที่มีคำกล่าวที่ว่า “เทรดในสิ่งที่คุณรู้จัก” หากคุณคุ้นเคยกับอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง คุณจะได้เปรียบอย่างมากในการเทรดหลักทรัพย์และหุ้นในอุตสาหกรรมนั้นเพราะคุณมีความรู้พื้นฐานอยู่แล้ว หากคุณมีพื้นฐานด้านการเมืองหรือเศรษฐศาสตร์ คุณอาจเลือกที่จะเทรดในตลาดฟอเร็กซ์เนื่องจากคุณมีความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดการเงินโลกมากกว่า ประเด็นก็คือ คุณจะต้องทำการศึกษาค้นคว้าจำนวนมากอยู่แล้ว ดังนั้นทำไมไม่เลือกตลาดที่สามารถช่วยลดภาระงานตรงนั้นได้ล่ะ?

 

สรุปใจความสำคัญเกี่ยวกับตลาดฟอเร็กซ์และตลาดหุ้น

 

โดยสรุปแล้ว ทั้งตลาดหุ้นและตลาดฟอเร็กซ์มอบโอกาสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้นักลงทุนและเทรดเดอร์ การทราบถึงความแตกต่างระหว่างสองตลาดจะช่วยคุณตัดสินใจว่าตลาดใดเหมาะกับคุณ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาเป้าหมาย ความชอบ และความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้อย่างถี่ถ้วนก่อนเลือกตลาดที่จะเทรด นอกจากนี้ เป็นความคิดที่ดีเสมอที่จะหาความรู้ให้แก่ตนเองและขอคำแนะนำจากแหล่งใดๆ ที่มีให้ก่อนที่จะนำเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปเสี่ยงในตลาดการเงินใดๆ

 

พร้อมที่จะ เริ่มซื้อขาย แล้วหรือยัง?
โพสต์ที่เกี่ยวข้อง
Opec symbol on the oil barrel and oil pipe line valve in front of the barrels
คู่มือการซื้อขาย
โอเปกคืออะไร และเหตุใดเทรดเดอร์จึงควรรู้เรื่องนี้?

โอเปกหรือ OPEC เป็นพันธมิตรด้านน้ำมันซึ่งมีอิทธิพลต่อราคาและอุปทานทั่วโลก เรียนรู้ว่าการตัดสินใจด้านการผลิตของโอเปกส่งผลต่อฟิวเจอร์สน้ำมัน หุ้นพลังงาน สินค้าโภคภัณฑ์ และสร้างโอกาสในการเทรดได้อย่างไร

exotic currency
คู่มือการซื้อขาย
ทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับคู่เงินพิเศษ

ในการซื้อขายฟอเร็กซ์ คู่เงินหลักและคู่รองมักได้รับความสนใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คู่สกุลเงินแปลกใหม่ก็สามารถเสนอโอกาสในการซื้อขายได้เช่นกัน

pure gold bars on black background compressed
คู่มือการซื้อขาย
เปิดเผยความลับ: กลยุทธ์เทรดทองคำอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ได้ผลกำไรสูงสุด

บทความนี้จะสำรวจกลยุทธ์เทรดทองคำ โดยให้ข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมคุณจึงควรซื้อขายทองคำ และการวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของแต่ละกลยุทธ์

สมัครสมาชิกบล็อกของเรา
สำหรับข่าวสารล่าสุดและแหล่งข้อมูลการซื้อขาย โปรดส่งตรงไปที่กล่องจดหมายของคุณ
rotator.png

เรากำลังพาท่านไปสู่ Hantec Trader ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเรา

โปรดทราบว่า Hantec Trader ไม่รองรับลูกค้าจากสหรัฐอเมริกาหรือประเทศที่ถูกจำกัดอื่นๆ