หนึ่งในแนวคิดที่สำคัญที่สุดในการเทรดและวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการระบุแนวรับและแนวต้าน พูดง่ายๆ ก็คือแนวรับและแนวต้านเป็นระดับราคาเฉพาะหรือบริเวณราคาที่ทำหน้าที่เป็นแนวกั้นไม่ให้ราคาตลาดเคลื่อนที่ผ่านไป
มันเป็นแนวคิดที่เรียบง่ายแต่บางครั้งการระบุระดับเหล่านี้ก็เป็นเรื่องยาก และนักเทรดมือใหม่ก็ทำพลาดกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจะช่วยให้คุณเข้าใจแนวคิดเรื่องแนวรับและแนวต้านให้มากขึ้น
แนวรับคืออะไร
แนวรับคือระดับราคาหรือโซนที่อยู่ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน มันควรจะหรือสามารถหยุดราคาไม่ให้ร่วงลงกว่าเดิมได้ นั่นเป็นเพราะเราคาดหวังว่าในระดับนี้จะมีความต้องการสูงขึ้นซึ่งป้องกันให้ราคาตลาดไม่ตกลงไปต่ำกว่าแนวรับ ดังนั้นระดับแนวรับมักจะเป็นราคาต่ำสูงในตลาด ซึ่งกระตุ้นให้ตลาดฟื้นตัวจากมันหรือจากระดับเหนือแนวรับที่ระบุไว้
แนวต้านคืออะไร
ระดับแนวต้านหรือโซนแนวต้านราคาเป็นส่วนที่มีราคาสูงกว่าราคาตลาดในปัจจุบันซึ่งป้องกันไม่ให้ราคาเคลื่อนที่สูงขึ้นไปกว่านั้น มันมีความเป็นไปได้ว่าอุปทานที่มากขึ้นจะมากกว่าอุปสงค์ในระดับ (หรือบริเวณ) แนวต้าน ซึ่งมันจะกระตุ้นให้ราคาหยุดที่หรือหยุดต่ำกว่า (ระดับหรือโซน) แนวต้าน เมื่อคุณดูแนวต้าน คุณกำลังดูราคาที่สูงที่สุดที่จะเป็นไปได้ในราคาตลาด
ต่อไป เราจะมาดูรายละเอียดของแนวรับและแนวต้านในรูปแบบต่างๆ
กราฟแนวรับและแนวต้าน
กราฟระดับแนวรับและแนวต้านเป็นคำกว้างๆ ที่ใช้พูดถึงระดับหลายระดับที่สามารถหาได้จากจุดราคาในกราฟ ซึ่งประกอบด้วย:
- ราคาแกว่งขึ้นสูงและลงต่ำ – จุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่สำคัญก่อนหน้านี้ ซึ่งราคาตลาดตกลงถึงระดับหนึ่ง แล้วจากนั้นก็เด้งขึ้นหรือสูงขึ้นถึงระดับหนึ่งและตกลง โดยมันถูกมองว่ามีความสำคัญเท่ากับเส้นแนวรับและแนวต้าน
- ระดับขาขึ้น – ถ้าตลาดมีระดับขาขึ้นสูงจากจุดราคา แสดงว่าระดับราคานั้นถูกมองว่าเป็นระดับแนวรับหรือแนวต้านที่น่าสนใจ
- เลขกลมๆ – เลขกลมๆ อย่างเช่น 12,000 หรือ 1.1000 มักจะถูกมองว่าเป็นระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ โดยมีสองเหตุผลดังนี้
ข้อสุดท้ายมีสองเหตุผล:
- เหตุผลด้านจิตใจ – นักเทรดและนักลงทุนหลายคนซื้อหรือขายหุ้น ตั้งจุดตัดและเป้าหมายกำไรไว้เป็นเลขกลมๆ นั่นเป็นเหตุผลด้านความสะดวกและจิตใจ มันอาจทำให้คำสั่งซื้อหุ้นสะสม เพื่อให้อุปสงค์หรืออุปทานเป็นตัวเลขกลมๆ ทำให้มันเป็นระดับแนวรับหรือแนวต้านที่มีความสำคัญ
- ราคาสัญญาสิทธิล่วงหน้า – สัญญาสิทธิล่วงหน้าเป็นสินค้าอ้างอิง เราจะไม่ลงรายละเอียดในบทความนี้ แต่พอจะพูดได้ว่าสัญญาสิทธิล่วงหน้ามี ‘ราคาใช้สิทธิ’ ซึ่งเป็นเลขกลมๆ นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขกลมๆ เป็นแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสัญญาสิทธิล่วงหน้าเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ขณะที่ข้อมูลด้านบนนี้ถือเป็นวิธีการง่ายๆ ในการระบุแนวรับและแนวต้าน ด้านล่างนี้จะเป็นข้อมูลวิธีการใช้แนวรับและแนวต้านในแบบต่างๆ
เส้นแนวโน้มและช่องราคาแนวรับและแนวต้าน
เส้นแนวโน้มและช่องราคาถูกใช้เพื่อระบุตลาดที่กำลังมีแนวโน้ม โดยราคาตลาดมักจะพยายามต้านเส้นแนวโน้มและช่องราคา เมื่อพวกมันถูกใช้เป็นระดับแนวรับหรือแนวต้าน แต่ถ้ามันทะลุเส้นแนวโน้มหรือช่องราคาไป แนวรับหรือแนวต้านก็มักจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เรา ลงลึกเรื่องเส้นแนวโน้มและช่องราคาที่นี่
การใช้เส้นรูปแบบเป็นแนวรับและแนวต้าน
รูปแบบราคามักจะมีระดับคงที่หรือเส้นที่เคลื่อนไหวเป็นแนวรับและแนวต้าน ถ้าคุณอยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คุณสามารถอ่านได้จาก บทความของเรา
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นเส้นที่เคลื่อนไหวซึ่งติดตามค่าเฉลี่ยตามกาลเวลา นักเทรดมักจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อระบุแนวรับและแนวต้าน ถ้าคุณอยากอ่านรายละเอียดหัวข้อนี้ให้มากขึ้น กรุณา ดูที่คู่มือของเรา
จุดกลับตัวและการขยายตัวของฟีโบนัชชี
จุดกลับตัวและการขยายตัวของฟีโบนัชชีสามารถคำนวณได้จากสัดส่วนทองคำและเส้นราคาที่เป็นเส้นตรงซึ่งใช้เป็นระดับแนวรับและแนวต้าน โดยเราวิเคราะห์เรื่อง จุดกลับตัวและการขยายตัวของฟีโบนัชชีอย่างละเอียดในบทความนี้
โบลินเจอร์ แบนด์ – วิธีการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กับกรอบส่วนเบี่ยงเบนพื้นฐานที่ซับซ้อนขึ้นกว่าเดิมซึ่งพัฒนาโดยจอห์น โบลินเจอร์ โบลินเจอร์ แบนด์สามารถนำมาใช้เป็นแนวรับและแนวต้านที่เคลื่อนที่ได้และคุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้จาก สุดยอดคู่มือสอนเรื่องโบลินเจอร์ แบนด์ของเรา
ค่าราคากลางของแนวรับและแนวต้าน
ค่าราคากลางได้มากจากการคำนวณที่เรียบง่ายซึ่งใช้ข้อมูลจากราคาสูงสุด ต่ำสุดและราคาปิดจากวันเทรดก่อนหน้านี้ แต่เดิมแล้ว ระบบค่าราคากลางเป็นระบบที่นักเทรดรายวันใช้กันและเป็นทางที่ดีที่จะทำให้คงระดับไว้ได้ จากการคำนวณค่าราคากลาง เราก็จะสามารถระบุระดับแนวรับและแนวต้านต่างๆ ได้ และสามารถสร้างกลยุทธ์การเทรดตามระดับที่ได้มาได้
การคำนวณค่าราคากลางเป็นไปดังนี้ โดยราคาสูงสุด ต่ำสุด และราคาปิดมาจากข้อมูลในวันก่อนหน้าการเทรด
ค่าราคากลาง (PP) = (สูง + ต่ำ + ปิด)/3
แนวต้าน 1= (PP × 2) – ต่ำ
แนวต้าน 2= PP + (สูง-ต่ำ)
แนวรับ 1 = (PP × 2) – สูง
แนวรับ 2 = PP – (สูง-ต่ำ)
แพลตฟอร์มการเทรดในปัจจุบันส่วนใหญ่ (อย่างเช่น MT4/ MT5) สามารถคำนวณค่าราคากลางของแนวรับและแนวต้านได้ จากนั้นค่าราคากลางนี้ก็สามารถนำไปใช้เป็นระดับเพื่อสร้างกลยุทธ์การเทรดด้วยราคากลาง (ดูด้านล่างนี้)
การใช้ค่าราคากลางในการเทรด
กลยุทธ์การเทรดรายวันยอดนิยมเมื่อใช้ค่าราคากลางของแนวรับและแนวต้านก็คือการตัดสินใจซื้อหรือขายในตลาดโดยดูจากการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงเวลาก่อนหน้านั้น
- ถ้าราคาขยับขึ้นสูงเหนือราคากลาง (PP) ในช่วงต้นการเทรดโดยใกล้เคียงกับระดับแนวต้านแรก แนวต้าน 1 นั่นคือสัญญาณให้ซื้อ
- ความต่างของค่าราคากลางของแนวรับและแนวต้านสามารถนำไปใช้เป็นเป้าหมายและจุดตัดได้
- ถ้าราคาตลาดขยับลงไปต่ำกว่าราคากลาง (PP) ในช่วงต้นการเทรด นักเทรดอาจตัดสินใจถือสถานะขายแทน
ค่าราคากลางแนวรับและแนวต้านสามารถใช้กับกลยุทธ์เทรดค่าราคากลางได้อย่างหลากหลาย – สามารถนำไปใช้เป็นแนวรับและแนวต้านทั่วไปในกลยุทธ์ ใช้มองหากลุ่มราคาซึ่งค่าราคากลางของแนวรับและแนวต้านก็ใกล้เคียงกับแนวรับและแนวต้านที่น่าสนใจจากแหล่งอื่นๆ
การใช้แนวรับและแนวต้าน
มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้แนวรับและแนวต้านในการสร้างกลยุทธ์เทรดได้ เบื้องต้น นักวิเคราะห์หรือนักเทรดต้องระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่พวกเขาคิดว่าสำคัญที่สุด หรืออาจจะนำตัวบ่งชี้แนวรับและแนวต้านหลายๆ แบบมารวมกันเพื่อค้นหาโซนหรือกลุ่มแนวรับและแนวต้าน
- เมื่อได้บริเวณของแนวรับและแนวต้านแล้ว ควรใช้กลยุทธ์เพื่อเข้าและออกจากการเทรด
- ถ้าตลาดอยู่ในกรอบราคา พยายามขายจุดที่มีราคาสูงสุดในกรอบราคาที่ระดับหรือโซนแนวต้าน และเล็งซื้อในจุดที่มีราคาต่ำสุดในกรอบราคาในบริเวณแนวรับ
- ถ้าราคาตลาดอยู่ในแนวโน้ม คุณควรเทรดในทิศทางเดียวกันกับแนวโน้มนั้น ยกตัวอย่างเช่นถ้าตลาดมีแนวโน้มขาขึ้น ให้ช้อนซื้อที่แนวรับหรือใกล้เคียงกับระดับหรือโซนแนวรับ หรือรอให้ทะลุบริเวณหรือระดับแนวต้านในแนวโน้มขาขึ้น จากนั้นก็เข้าถือสถานะซื้อเมื่อทะลุเหนือแนวต้าน
- ในแนวโน้มขาลง ให้ระบุระดับแนวต้านและมองหาโอกาสในการขายหากราคาปรับฐานไปทางแนวต้าน หรือถ้าแนวโน้มขาลงทะลุแนวรับ ก็ให้เข้าถือสถานะขายเมื่อแนวรับนั้นรับราคาไม่อยู่
แนวรับและแนวต้าน: สรุป
แนวรับและแนวต้านเป็นแง่มุมที่สำคัญมากๆ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและกลยุทธ์กราฟทุกรูปแบบ การระบุแนวรับและแนวต้านนี้มีหลากหลายวิธีการ และเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการหลักๆ กันไปแล้ว แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่คุณสามารถนำมาใช้ได้อีก ไม่ว่าฝีมือการเทรดของคุณจะอยู่ที่ระดับไหน แนวคิดแนวรับและแนวต้านก็เป็นสิ่งที่คุณควรจดจำไว้เสมอ และนักเทรดควรทราบถึงระดับที่เป็นไปได้ ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้ใช้ระดับนี้เลย เพราะตลาดนั้นเป็นไปได้ตามแนวคิดแนวรับและแนวต้านอย่างแน่นอน เราขอให้คุณโชคดีกับการใช้แนวรับและแนวต้านในการเทรดกับ Hantec Markets